tag:blogger.com,1999:blog-367783572024-03-14T12:14:55.682+07:00chanin1222พื้นที่ของ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคchanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comBlogger246125truetag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-35459298996691493782024-02-01T14:31:00.002+07:002024-02-01T14:31:28.783+07:00ขอบเขตของสิทธิเสรีภาพ<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgoWHM-XloZorZxE0NEL33ARflGNl3AoWeQy1Lg-eo7Et1OfXANnbzTQKTZXrgBXxz3IYzmOp3erUIIN3xEALeXS33ZFtqMu-YtBNF4wD8HBEVNgVkbsU_fSBZRAcUCyqe5i_pqv7oh5zR0XJxun7MPNr-xuFs16BmyXX59WyBvNNsmUye90sfE/s1200/constitution.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="600" data-original-width="1200" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgoWHM-XloZorZxE0NEL33ARflGNl3AoWeQy1Lg-eo7Et1OfXANnbzTQKTZXrgBXxz3IYzmOp3erUIIN3xEALeXS33ZFtqMu-YtBNF4wD8HBEVNgVkbsU_fSBZRAcUCyqe5i_pqv7oh5zR0XJxun7MPNr-xuFs16BmyXX59WyBvNNsmUye90sfE/w400-h200/constitution.jpg" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div style="text-align: justify;">คำว่า "ประชาชน" ในวันนี้ นับได้ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญทางการเมืองยุคใหม่ ช่วงเวลาที่นักการเมืองมองเห็นว่าเป็น "ยุคทอง" เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับกระบวนการทางการเมือง ขยายเส้นทางไว้ให้เปิดกว้างสำหรับ นักการเมืองรุ่นใหม่ในการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยอาศัยวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาเพิ่มเติม เป็นเครื่องมือที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ประชาชน ก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในลำดับสูงสุดอยู่เช่นเดิม </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">ประชาธิปไตย เป็นอีกวลีหนึ่งที่มีความสำคัญ กลายเป็นคำที่ติดปากของนักการเมืองยุคใหม่ ที่ใช้นำมากล่าวและอ้างถึง ในการแสวงหาผู้สนับสนุน แม้ว่าในบางกรณีจะมีการกล่าวอ้างถึงในความหมายที่ผิดเพี้ยนไปจากความถูกต้อง ทั้งนี้ เป็นเพราะผู้ฟังจะพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้พูด หรือ คุณลักษณะของผู้พูด หรือ ฐานะทางสังคมของผู้พูด มากกว่าความสำคัญหรือความถูกต้อง ของเนื้อหาที่จะได้รับฟัง</div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">และก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตย กับขอบเขตของสติปัญญา เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในกระบวนการทางการเมืองภาคประชาชน </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;"><span style="color: #073763;"><span lang="TH" style="font-family: arial;">.......เมื่อเวลา
</span><span style="font-family: arial;">09.30</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
น. วันที่ </span><span style="font-family: arial;">31</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
มกราคม องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ
ลงมติกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความอดีตพระพุทธะอิสระ
ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา </span><span style="font-family: arial;">49</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลขณะนั้น
ในฐานะผู้ถูกร้องที่ </span><span style="font-family: arial;">1</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
และ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ </span><span style="font-family: arial;">2</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. …
เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา </span><span style="font-family: arial;">112</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา </span><span style="font-family: arial;">49</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
วรรคหนึ่งหรือไม่ ...........</span></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="color: #073763;"><span lang="TH" style="font-family: arial;">.............</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">หากยังปล่อยให้ผู้ถูกร้องทั้งสองกระทำการดังกล่าวต่อไป ย่อมไม่ไกลเกินเหตุที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองจึงเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา </span><span style="font-family: arial;">49</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
วรรคหนึ่ง ซึ่งวรรคสอง
ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
อาศัยเหตุผลดังกล่าว จึงวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา </span><span style="font-family: arial;">49</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
วรรคหนึ่ง สั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ เลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด
การเขียน การโฆษณาและการสื่อความหมายวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา </span><span style="font-family: arial;">112</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา </span><span style="font-family: arial;">112</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา </span><span style="font-family: arial;">49</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
วรรคสอง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยวิธีพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ
พ.ศ.</span><span style="font-family: arial;">2561</span><span lang="TH" style="font-family: arial;">
มาตรา </span><span style="font-family: arial;">74.....</span></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;">....รายละเอียดในคำวินิจฉัย สามารถค้นหาได้จากศาลรัฐธรรมนูญ หรือทางสื่อมวลชนทั่วไป</span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;"><br /></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;">คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ จึงสามารถยุติความขัดแย้งในข้อกฎหมายของเรื่องนี้ลงไปได้ แต่ไม่ใช่ข้อยุติ สำหรับผู้ที่มีความคิด มุ่งมั่นที่จะล้มล้างระบอบการปกครองของไทย เห็นได้จากการแสดงออกของกลุ่มการเมืองดังกล่าว และยังมีแรงสนับสนุนจากสื่อมวลชนกับองค์กรต่างชาติ ที่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะที่มีการกล่าวตอกย้ำบ่อยครั้งว่า ผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยครั้งนี้ เป็นพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด มีจำนวน ส.ส.ได้รับเลือกเข้ามามากที่สุดถึง 151 คน มีประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกเข้ามามากกว่า 14 ล้านเสียงแต่กลับไม่ได้กล่าวถึง ความเป็นไปทางการเมือง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ของพรรคการเมืองนี้ ที่เปิดแนวรบในทุกมิติ ทั้งในสภา ทั้งบนถนน ทั้งการชุมนุมประท้วง ทั้งการกระทำที่ผิดกฎหมาย การก่อความวุ่นวายในที่สธารณะ การสร้างความรุนแรงในการชุมนุม มีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ การทำร้ายเจ้าหน้าที่ ฯลฯ </span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;"><br /></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;">แต่สิ่งที่สื่อมวลชนต่างประเทศกล่าวถึง คือ มันเป็นสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงออกของประชาชน </span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;"><br /></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;">อิทธิพลของวิทยาการและเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ เป็นปัจจัยสำคัญในการชักจูงประชาชนจำนวนมาก ให้หลงเชื่อ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดความรู้ ความเข้าใจ ในเื่องกฎหมาย และเนื้อหาของคำว่า "ประชาธิปไตย" อย่างถ่องแท้ จึงไม่สามารเข้าใจใน "ขอบเขต" ของ สิทธิ เสรีภาพ ของตนว่าควรจะมีขอบเขตอยู่แค่ไหน มากน้อยเพียงไร </span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;"><br /></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;"><b><span style="font-size: medium;">ทุกคนเข้าใจแต่ สิทธิ เสรีภาพ และการแสดงออกของตัวเอง</span></b></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;"><b><span style="font-size: medium;">แต่ไม่เคยมองไปถึง สิทธิ เสรีภาพ และการแสดงออกของผู้อื่น </span></b></span></div><div style="text-align: justify;"><span style="font-family: arial;"><b><span style="font-size: medium;">มองทุกอย่างที่ตนทำลงไปว่า ถูกต้อง และคนอื่นทุกคนเป็น ผู้ผิด</span></b></span></div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-16149959328360129792024-01-17T12:32:00.004+07:002024-01-17T12:32:58.219+07:00คนพิการ<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgenfcruscrlY17HkDLAkd9hoID4uytRqQ_wdbKvC0l191Hr7JKydRpiBtz2GtKPwbvas7VhS6LHim_erj0f4xqgpgXSuvVILOGFspL9KqunT978Cm9kY7DVys6Ld-gfPVyVMdHfySyw-2zdJ_qW3FnTkgwJlwiYGuoBmNhBLP-wTR1MQcCTStZ/s728/eyes-mouth-monkey-ears-wallpaper-preview.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="455" data-original-width="728" height="250" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgenfcruscrlY17HkDLAkd9hoID4uytRqQ_wdbKvC0l191Hr7JKydRpiBtz2GtKPwbvas7VhS6LHim_erj0f4xqgpgXSuvVILOGFspL9KqunT978Cm9kY7DVys6Ld-gfPVyVMdHfySyw-2zdJ_qW3FnTkgwJlwiYGuoBmNhBLP-wTR1MQcCTStZ/w400-h250/eyes-mouth-monkey-ears-wallpaper-preview.jpg" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ตลอดช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านมา ได้มีโอกาสได้พบเห็น ได้สัมผัสกับความพิการของผู้คนมาแล้วทุกรูปแบบ แต่ก็ไม่ได้เป็นนักเรียกร้องสิทธิมนุษยชนเพื่อคนพิการ เพราะแต่ละคนนั้นมีรูปแบบในการดำรงชีวิตที่แตกต่างกันออกไป และสาเหตุของความพิการก็แตกต่างกันออกไป ในกรณีนี้มีเพียงผู้พิการแต่กำเนิด เป็นกลุ่มเดียวที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ดีที่สุด สามารถผลักดันตัวเองให้เข้าไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดของความต้องการ โดยไม่ต้องร้องขอความเห็นใจจากสังคม (แม้ว่าสังคมจะพยายามฉุดดึงพวกเขาให้เข้ามาอยู่ในกระบวนการ) และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบว่า คนในสังคมบางกลุ่ม มีความมุ่งหมายแอบแฝงที่จะแสวงหาผลประโยชน์ จากความพิการของพวกเขา ซึ่งดูจะเป็นเรื่องปกติสามัญของสังคมมนุษย์ยุคใหม่ ที่ในบางกรณีโหดร้ายเกินกว่าที่สังคมโดยรวมจะยอมรับ เช่น การทำให้เด็กทารกพิการ เพื่อนำมาเป็นอุปกรณ์ในกลุ่มขอทาน ฯลฯ </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ความพิการทางร่างกายของผู้อื่น สามารถสร้างความเวทนาสงสาร สร้างความสะเทือนใจ ให้กับคนส่วนใหญ่ โดยธรรมชาติในจิตใจของมนุษย์ปกติธรรมดา ไมม่ว่าจะทางสายตา ทางการได้ยิน ทางการพูด ทางอวัยวะบางส่วนในร่างกาย ซึ่งเป็นความพิการที่เกิดขึ้นกับร่างกาย</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">บทความนี้ไม่ได้พูดถึงคนพิการเหล่านี้ แต่กำลังจะชี้ให้เห็นถึง ความพิการของมนุษย์ปกติธรรมดาบางจำพวก ที่มีความพิการทางด้านจิตใจ สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นมาจากสภาพความบิดเบี้ยวทางสังคม ซึ่งสาเหตุเริ่มต้นมาจาก วิวัฒนาการทางเทคโนโลยี สภาพโดยรวมของสังคม ซึ่งมีทั้งสิ่งยั่วยุทางอารมณ์ ความต้องการที่มากเกินกว่าความจำเป็นขั้นพื้นฐาน อันเกิดขึ้นจากการปลุกเร้าด้วยวิถีทางการเมือง จนทำให้มนุษย์มากมายมีความพิการเกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">เป็นความพิการทางจิตใจ ที่อ่อนคล้อยไปตามกระแสสังคมโดยรวม กลบบังวิจารณญาณที่ควรจะมีอยู่เสียสิ้น เรื่องนี้เป็นต้นทางของช่องว่างทางสังคม ระหว่างคนจนกับคนรวย ซึ่งกำลังกว้างมากขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป และปฎิเสธไม่ได้ว่า ...การเมือง ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ... </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">เพราะ การเมือง มีเป้าหมายในเรื่องของผลประโยชน์เป็นสำคัญ ไม่ใช่เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แต่ก็กล่าวอ้างว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนโดยรวม ตามวิถีทางประชาธิปไตย หากแต่ตั้งเป้าไปที่คำว่า ผลประโยชน์ของประเทศชาติต้องมาก่อน ซึ่งสรุปได้ว่า ผลประโยชน์ของประชาชนย่อมมาทีหลัง และก็สรุปได้ว่า ผลประโยชน์ของนักการเมืองต้องมาก่อน ตรงกันข้ามกับคำที่ว่า ประชาชนทุกคนมีความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในทุกด้าน ที่เป็นคำโฆษณาชวนเชื่อมาตั้งแต่เริ่มต้น </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">เป็นความฝัน เป็นความหวัง ที่ประชาชนรอคอยมานานชั่วชีวิต </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ซึ่งไม่มีหนทางที่จะสมหวัง แม้ว่าจะออกมาจากปากของ นักเรียกร้องหน้าใหม่ ทุกยุคทุกสมัย ที่เดินเข้ามาในเส้นทางการเมือง และจะถูกหลอมละลายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการหลอกลวง...ในที่สุด </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">และก็ปฎิเสธไม่ได้เช่นกันที่ว่า ประชาชนจำนวนมากมาย ก็กำลังเดินทางเข้าไปสู่เส้นทางนี้ ด้วยข้ออ้างถึงวิถีทางการเมือง จากอำนาจหน้าที่ที่ได้รับในการเมืองท้องถิ่น เพ้อฝัน มุ่งหวัง ที่จะก้าวขึ้นไปสู่อำนาจทางการเมืองในระดับในสูงขึ้น ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ขณะที่นักธุรกิจบางส่วนมุ่งไปที่ผลประโยชน์โดยตรง ด้วยการร่วมมือกับนักการเมืองเหล่านี้ ในการสร้างความมั่งคั่งให้กับธุรกิจ มีข้าราชการบางส่วนที่ร่วมมือกับนักการเมืองและนักธุรกิจเหล่านี้ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><b><span style="font-size: medium;">ไม่มีใครกล้าพูดว่า ข้าราชการ นักการเมือง และ นักธุรกิจ กลุ่มนี้ </span></b></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><b><span style="font-size: medium;">คือ กาฝากของสังคม</span></b></div><br /><p></p><p><br /></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-60360075539070642342023-12-30T16:12:00.002+07:002023-12-30T16:12:23.019+07:00ยังคงเคลื่อนไหว<p> <br /></p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOP8kDZC1XA1N0eZ_H_9gCU1i9Ksrpt4RAbjHo3qcz-VQWHV-2EW9BV9pYYeXxnIBKeYHyTiYD8bohN-KyDkGP0RURymmC56X8aMBQkT2qQfeLkhp9Jdfas9vEUPADkWd0f_JUx_8DI2hxsrEkRhpJcscleBMEsTDGVQqld7-iOn2Tivw_zYNt/s1465/covid301223.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="991" data-original-width="1465" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOP8kDZC1XA1N0eZ_H_9gCU1i9Ksrpt4RAbjHo3qcz-VQWHV-2EW9BV9pYYeXxnIBKeYHyTiYD8bohN-KyDkGP0RURymmC56X8aMBQkT2qQfeLkhp9Jdfas9vEUPADkWd0f_JUx_8DI2hxsrEkRhpJcscleBMEsTDGVQqld7-iOn2Tivw_zYNt/w400-h270/covid301223.jpg" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสมหาภัย ซึ่งปรากฎว่ายังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดพักฉลองเทศกาลเหมือนกับมนุษย์ ยอดผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกในวันนี้(30 ธันวาคม) อยู่ที่ 700,630,550 คน สหรัฐอเมริกานำมาเป็นอันดับแรก 110,095,124 คน โดยมีผู้เสียชีวิตรวม 1,190,157 คน กับยังมีผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ 1,033,850 คน ขณะที่จำนวนประชากรรวมทั้งประเทศมีอยู่ 334,805,269 คน อัตราส่วนของผู้ติดเชื้อต่อจำนวนประชากรค่อนข้างน่าตกใจ สำหรับประเทศที่เรียกตัวเองว่าผู้นำโลกในทุกด้าน (ไม่เว้นแม้แต่เรื่องแบบนี้) </div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCbMYq6zRp5_egHUWn6CDm37UIxKBSEsV3N45DN4wOvba97XVL0MIipg4prFml6AQ9fQNdGsygBt7QPrL71xmnQWYFyiBotGLan09QZfw8-uMMQL6Kx8bft4kcA7UIoZGPyTiWPesphGlHaVhzq9QzLxdE3hodN2f2slx-jJa_L-MVsO5ox7VU/s1469/covid3012232.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="991" data-original-width="1469" height="270" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCbMYq6zRp5_egHUWn6CDm37UIxKBSEsV3N45DN4wOvba97XVL0MIipg4prFml6AQ9fQNdGsygBt7QPrL71xmnQWYFyiBotGLan09QZfw8-uMMQL6Kx8bft4kcA7UIoZGPyTiWPesphGlHaVhzq9QzLxdE3hodN2f2slx-jJa_L-MVsO5ox7VU/w400-h270/covid3012232.jpg" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ส่วนประเทศไทยของเราอยู่ในอันดับ 33 ยอดผู้ติดเชื้อรวม 4,761,781 คน (ซึ่งไม่ดีใจเท่าไหร่นักที่เป็น 1 ในจำนวนนี้) ยอดผู้เสียชีวิต 34,514 คน กับยังคงรักษาตัวอยู่อีก 34,631 คน ขณะที่จำนวนประชากรมีอยู่ 70,078,203 คน เมื่อมองดูอัตราส่วนเปรียบเทียบกับมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ไม่น่าเชื่อว่าจะเหนือกว่าหลายเท่าตัว (แม้ว่าจะมีคนไทยบางกลุ่มจ้องแต่จะค่อนขอดให้ร้ายต่าง ๆ นา ๆ) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในด้านการสาธารณสุขที่ดีเด่นเป็นเลิศ โดยไม่ต้องโฆษณาโอ้อวด </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">แต่ในความเป็นจริงแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ยังคงดำเนินต่อไปเช่นเดิม เพียงแต่อ่อนกำลังลงไปบ้างแล้ว จากการป้องกันตัวของมนุษย์ ไม่ใช่จากวัคซีนเพียงอย่างเดียว เพราะวัคซีนเทพบางชนิด (ที่เคยมีคนบางกลุ่มร่ำร้องโหยหา กระเสือกกระสนดิ้นรนแทบจะเป็นจะตาย) กำลังส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้ที่เคยได้รับ หลังจากที่เคยมีข่าวการเสียชีวิตลงอย่างต่อเนื่องมาก่อน ในช่วงกลางของการแพร่ระบาด</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">โลกยังคงไม่มีความปลอดภัยอยู่เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นด้วยปรากฎการณ์ตามธรรมชาติต่าง ๆ แผ่นดินไหว พายุนานาชนิด ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม โรคระบาด หรือด้วยอุบัติเหตุจากเครื่องจักรกลของวิทยาการสมัยใหม่ หรือด้วยน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง จากความขัดแย้งสารพัดเรื่อง สิ่งเหล่านี้เพิ่มยอดผู้เสียชีวิตให้มากขึ้นทุกเวลา</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">แต่ในเวลาเดียวกัน ความขัดแย้งจากอุดมการณ์ทางการเมือง ก็กำลังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสังคมโลกโดยรวมเช่นกัน เพราะเป็นชนวนให้เกิดการเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันในหลายภูมิภาค อาจจะเพื่อช่วงชิงอำนาจเหนือพื้นดิน หรืออาจจะเพื่อผลักดันตัวเองขึ้นเป็นใหญ่เหนือผู้อื่น หรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์อื่นใด </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">แต่สรุปแล้ว ความขัดแย้งเหล่านี้ก็เกิดมาจากคนเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า .... นักการเมือง</div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-40963757283332582882023-09-26T13:34:00.003+07:002023-09-26T13:34:54.784+07:00ภัยเงียบ<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhu7GcJ8J1GFl8xWPZ9a8bexyfcYm044MPBfE2SfBnDOPDMORA2ctYe5ZdEXT1900YhzRH3VLS4tN8Y4JMCuOlRHylIy-WcuBykFOPbqk0O1qaV8VvsFBk9TpZB9pbbCSs1yDPqz1AicJS_U100NoWZCrNniTWh-JtJizzZ9cU0ht2Q5EVysCDH/s999/wo.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="957" data-original-width="999" height="384" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhu7GcJ8J1GFl8xWPZ9a8bexyfcYm044MPBfE2SfBnDOPDMORA2ctYe5ZdEXT1900YhzRH3VLS4tN8Y4JMCuOlRHylIy-WcuBykFOPbqk0O1qaV8VvsFBk9TpZB9pbbCSs1yDPqz1AicJS_U100NoWZCrNniTWh-JtJizzZ9cU0ht2Q5EVysCDH/w400-h384/wo.jpg" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ สถานการณ์สงคราม และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก เบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน ให้ลืมเลือน COVID-19 ไปโดยสิ้นเชิง ไม่มีใครให้ความสนใจกับความเปลี่ยนแปลงของเชื้อโรคร้ายชนิดนี้ ว่าได้มีการกลายพันธุ์ขยายตัวออกไปอย่างไรบ้าง ? ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่มีใครอยากจะสนใจว่ามีผู้คนติดเชื้อไปแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ ? มีผู้คนเสียชีวิตไปแล้วเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด ? ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่า ผู้นำรัฐบาลของทุกประเทศ ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตนเอง ให้ความสำคัญกับการสร้างความนิยม เพื่อความมั่นคงในเสถียรภาพของรัฐบาล มากกว่าที่จะคำนึงถึงชีวิตของประชาชน </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtnbT_kR26H_v4IKaTcYMjiVSNbmuqFUI-yRYkyp2LgKwIPJZ2TD1obEw9Fd00CYUXP5WWKfY_MAP9ZVXugsup0u619NjetcDxUmRNhgKB44zE_WG18LIElsr-x8zrwtIeJt0tqL1edAVWbap3Kc5EJcDmmR3od1V0-QBq7kiYwiKgWurHaXZR/s1920/th.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtnbT_kR26H_v4IKaTcYMjiVSNbmuqFUI-yRYkyp2LgKwIPJZ2TD1obEw9Fd00CYUXP5WWKfY_MAP9ZVXugsup0u619NjetcDxUmRNhgKB44zE_WG18LIElsr-x8zrwtIeJt0tqL1edAVWbap3Kc5EJcDmmR3od1V0-QBq7kiYwiKgWurHaXZR/w400-h225/th.jpg" width="400" /></a></div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">หากมีใครติดตามข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ จะพบว่ายอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนเหมือนเดิม เป็นเพราะขาดการประชาสัมพันธ์เหมือนที่เคยทำมา ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาแล้ว หรืืออาจจะเป็นเพราะว่า ทุกประเทศได้มีการพิจารณาเปรียบเทียบ ยอดของจำนวนประชากร ว่ามีการเพิ่มสูงขึ้น รวดเร็วกว่าอัตราการเสียชีวิต ก็เป็นได้ สิ่งนี้จึงเป็นวิธีการปรับความสมดุลของประชากรอีกวิธีหนึ่ง </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZaiuerBTX9QH3lOXqb25XbQv5LUWV8nhvKXbl2Y4PoGi4V3mMMWzod2EgI5UHbEaMmNaJqGMsB7AVhpSrAGlcLMYh_aezLtVNIXoyhnTqvfKrIWvF9zdImmFSPB3axF-D0d2qhl8tGYw-YpenPsW9VwD8oqW3LrO6tgeyh8-lKzzOAo86TaaP/s1175/pp.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="905" data-original-width="1175" height="308" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZaiuerBTX9QH3lOXqb25XbQv5LUWV8nhvKXbl2Y4PoGi4V3mMMWzod2EgI5UHbEaMmNaJqGMsB7AVhpSrAGlcLMYh_aezLtVNIXoyhnTqvfKrIWvF9zdImmFSPB3axF-D0d2qhl8tGYw-YpenPsW9VwD8oqW3LrO6tgeyh8-lKzzOAo86TaaP/w400-h308/pp.jpg" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiNiBU3uBBccpJHtv8pkSLj4HJivhU7hvGdrt5mqnFieadiVCia_jbSs4AEfKN7eNfKHx-GA81WuWm6pFhpg3rUU-Y2z6XRyFkO_dvuuixld6H7WqmXIRZqxN9tIRq6DOo3FXoRFl9YU-GNAbL9oRfIvMwWugIfaDE0q9CuCb225SrE0lZUJXLX/s1920/covid260923.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiNiBU3uBBccpJHtv8pkSLj4HJivhU7hvGdrt5mqnFieadiVCia_jbSs4AEfKN7eNfKHx-GA81WuWm6pFhpg3rUU-Y2z6XRyFkO_dvuuixld6H7WqmXIRZqxN9tIRq6DOo3FXoRFl9YU-GNAbL9oRfIvMwWugIfaDE0q9CuCb225SrE0lZUJXLX/w400-h225/covid260923.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7zm_xq_oExFL_E7pdkhc8B0_phoRHVrgFLpMCUcvg0CCATScWbp16831cY6sl5GpzAXGkJ23kodGMGd7yoCn7nq3vnEkqLhvEicx6M1uzfQjIjtV0JMoXKDA9jUa5k6tI314YHUG5HRygGgqgB1JgNAnRCtB_hJA_1kVv49BSCRtteRNY48UR/s1920/covid260923_2.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7zm_xq_oExFL_E7pdkhc8B0_phoRHVrgFLpMCUcvg0CCATScWbp16831cY6sl5GpzAXGkJ23kodGMGd7yoCn7nq3vnEkqLhvEicx6M1uzfQjIjtV0JMoXKDA9jUa5k6tI314YHUG5HRygGgqgB1JgNAnRCtB_hJA_1kVv49BSCRtteRNY48UR/w400-h225/covid260923_2.png" width="400" /></a></div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgbCnIDouV7tItCERMtTU89XPGnTh8KmWBm_It-0s6ywIVWAzqAuY10b-j_Atkxe4a0XgRRTTGnzJQat-z2MnzOcw5c1XF8Fe9Sufq2Wfb_QyRInpesc7M9aYtiT3VDQXYPgUylUOwbmh-bAMSbO56lO5twhE3SSOJ8oZXsVkOCgH9zvqK0_xZ6/s1920/covid260923_3.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgbCnIDouV7tItCERMtTU89XPGnTh8KmWBm_It-0s6ywIVWAzqAuY10b-j_Atkxe4a0XgRRTTGnzJQat-z2MnzOcw5c1XF8Fe9Sufq2Wfb_QyRInpesc7M9aYtiT3VDQXYPgUylUOwbmh-bAMSbO56lO5twhE3SSOJ8oZXsVkOCgH9zvqK0_xZ6/w400-h225/covid260923_3.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">หรือนี่จะเป็นวิธีการปรับสมดุลจำนวนประชากร ด้วยความเอื้อเฟื้อจากธรรมชาติ ก็เป็นได้</div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><br /><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-67281176775004396962023-09-15T17:48:00.003+07:002023-09-15T17:48:40.865+07:00ลมหายใจของการเมือง<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhgRji1RZURG_2HYylDi1TrihWWZVtBgqeS_1_BiykA7pspsV9votPv1wVVvJqnSbdfF0Mz__KzCSDtMQqrLejwYmYluvhw96_kRetuAj4K5cWLq9jGFGNFh1nA-NrZEuUK5QSL3Or9daJRqWLZxe3s_GW93JPH9gZT4CNTH4rRAal_ICA2QC77/s1920/441.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhgRji1RZURG_2HYylDi1TrihWWZVtBgqeS_1_BiykA7pspsV9votPv1wVVvJqnSbdfF0Mz__KzCSDtMQqrLejwYmYluvhw96_kRetuAj4K5cWLq9jGFGNFh1nA-NrZEuUK5QSL3Or9daJRqWLZxe3s_GW93JPH9gZT4CNTH4rRAal_ICA2QC77/w400-h225/441.jpg" width="400" /></a></div><br /><p></p><p style="text-align: justify;">ความมุ่งหมายในการถ่ายทอดสดการประชุมสภา ของรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ ถึงบทบาทของผู้แทนราษฎร ที่ตนเลือกเข้าไปทำหน้าที่แทน ว่าได้ดำเนินการไปตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในช่วงหาเสียงหรือไม่ ? ซึ่งเรื่องสำคัญที่สุด เป็นเรื่องเกี่ยวกับปากท้องของประชาชน แต่ในการประชุมทุกครั้ง สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือ การบิดพริ้วต่อคำสัญญาต่าง ๆ ที่ได้กำหนดเอาไว้ว่าเป็น "นโยบาย" และต้องยอมรับความจริงที่ว่า นโยบายเหล่านั้นเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชน แต่เมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้ว นโยบายเหล่านั้น กลับมีข้อขัดข้อง มีปัญหาในการปฏิบัติ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่ควรจะถูกแจ้งให้ประชาชนได้รับรู้ ก่อนที่จะอาสาเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร </p><p style="text-align: justify;">ในการประชุมสภาทุกครั้ง สิ่งที่ประชาชนได้มาเป็นพยานรู้เห็น ก็คือ ความไร้วุฒิภาวะ ความถ่อยเถื่อน ทั้งกริยามารยาท และความไร้สาระในแนวความคิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะรู้ถึงที่มาของผู้แทนราษฎรแต่ละคน ที่มีความแตกต่างกันมากมาย และ ระดับการศึกษาก็ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่า คนผู้นั้นจะมีวุฒิภาวะที่เหมาะสม อันอาจจะเป็นเพราะพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ ประชาชนจะได้เห็นความจริงที่ว่า ผู้แทนของตน มีสติปัญญามากน้อยเพียงใด หรือ มีสักกี่คน ที่นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เข้าไปนำเสนอต่อที่ประชุม แต่จะพบเห็นว่า ทุกปัญหาความขัดแย้งของสภา จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสภาเสียมากกว่า </p><p style="text-align: justify;">ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ข้ออ้างที่ว่า ต้องปฏิบัติตามมติของพรรคการเมืองที่สังกัดอยู่ แต่ก็เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป ว่า ใคร ? เป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง และเป็นผู้กำหนดนโยบายเพียงคนเดียว ซึ่งดูเหมือน ฝ่ายรักษากฎหมาย สื่อมวลชน รวมถึงประชาชนทั่วไป จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ โดยทั่วถึง ซึ่งเป็นปกตินิสัยพื้นฐานของคนไทยอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน บุคลิกหน้าตาการศึกษา และคำพูดคำจา ก็เป็นจุดสนใจของประชาชนส่วนมาก ดังนั้น คนที่พูดเก่งแต่ไม่ทำงาน จึงได้เปรียบคนทำงานแต่ไม่ค่อยพูด เพราะสามารถปั้นแต่งผลงานออกมาได้ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ใส่ใจกับข้อเท็จจริงที่มีอยู่ทั้งหมด </p><p style="text-align: justify;">จุดมุ่งหมายหลักของการประชุมสภา ดูเหมือนจะพุ่งตรงไปที่ สิทธิ และ ผลประโยชน์ ของนักการเมือง เป็นสำคัญ เห็นได้ชัดจาก ความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะเข้าไปแก้ไขกฎหมายที่มีผลกระทบต่อความเป็นนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็น บทลงโทษในกฎหมายเกี่ยวกับการทุจริต บทลงโทษที่เกี่ยวกับการดำเนินการทางการเมืองที่มิชอบในทุกด้าน </p><p style="text-align: justify;">ความต้องการที่สำคัญของนักการเมือง ก็คือ การแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง การเข้าไปมีอำนาจเหนือข้าราชการประจำทุกระดับ การเข้าไปแทรกแซงภายในองค์กรอิสระที่มีอำนาจตามกฎหมาย ฯลฯ</p><p style="text-align: justify;"><b>มั่นใจได้เลยว่า ยังมีอีกมากมายที่เป็นความต้องการของนักการเมือง</b></p><p style="text-align: justify;"><b>และยังเชื่อว่า เรื่องสำคัญที่สุด ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อย่างแน่นอน</b></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-32724605043395699312023-08-16T10:34:00.008+07:002023-08-16T11:21:58.056+07:00วงเวียนอำนาจ<p style="text-align: justify;"> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhcEuXPPTA3qkGaMTnZZG1wdw1IqR3wrjhDzXCK7D21USTTVOeWjkEpEXJyf50So7zuNinNVzsZnzfMY4yG3sG4l6Gbw-W0LhSFA7r5RCQwIe_Xn4a4qPqmgEbs-N95xdUK9L-tc9ThhS_PPerXS1LPjp18_Eu03YDP19TKFyT0RcKBHouhQKI7/s1400/PhotoFunia-1620978471.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1050" data-original-width="1400" height="300" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhcEuXPPTA3qkGaMTnZZG1wdw1IqR3wrjhDzXCK7D21USTTVOeWjkEpEXJyf50So7zuNinNVzsZnzfMY4yG3sG4l6Gbw-W0LhSFA7r5RCQwIe_Xn4a4qPqmgEbs-N95xdUK9L-tc9ThhS_PPerXS1LPjp18_Eu03YDP19TKFyT0RcKBHouhQKI7/w400-h300/PhotoFunia-1620978471.jpg" width="400" /></a></div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><span style="text-align: justify;">ในช่วงเวลานี้ นักการเมืองกำลังใช้ประชาชน เป็นเบี้ยตัวหนึ่งของกระดานหมากรุก โดยมีตัวหมากอีกหลายตัวรายล้อมอยู่ห่าง ๆ ตามลำดับความสำคัญ ขณะที่ตัวขุนยืนบงการอยู่จากด้านหลังสุด ภายในวงล้อมของขุนพลรอบด้านที่รอรับคำสั่ง ซึ่งก็เป็นไปตามคำกล่าวของนักการเมืองเอง ที่เคยใช้คำพูดที่ว่า "เล่นการเมือง" แทนที่จะใช้คำว่า "ทำงานการเมือง" อันเป็นพฤติกรรมปกติของนักการเมือง ที่สืบทอดต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย </span></div><p></p><p style="text-align: justify;">กาลเวลาที่ผ่านมา อาจจะทำให้ประชาชนบางส่วน เริ่มที่่จะสำเหนียกได้ถึงความจริงในข้อนี้ และเบื่อหน่ายต่อวิถีการเมือง เพราะจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน การเมืองไทยไม่ได้พัฒนาขึ้นไปในทางที่ดี แม้ว่ามีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากการจัดตั้งคณะบุคคลขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ภายหลังการรัฐประหารทุกครั้ง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชน แต่ปรากฎว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมา ก็มักจะมีบทบัญญัติบางข้อ ไปขัดขวางกระบวนการแสวงหาผลประโยชน์ของนักการเมือง รัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาภายหลังการเลือกตั้งทุกครั้ง จึงถือว่าเป็นอำนาจเด็ดขาดของพวกตน ในการใช้ฝ่ายนิติบัญญัติดำเนินการแก้ไขบทบัญญัติดังกล่าว เปิดทางให้เกิดประโยชน์กับนักการเมืองโดยตรง </p><p style="text-align: justify;">การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการแย่งชิงกันเข้ามาทำหน้าที่รัฐบาล ราวกับว่านักการเมืองเป็นหัวใจของระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ประชาชนตามที่กล่าวแอบอ้างอยู่ทุกลุมหายใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงความเสมอภาค ความเท่าเทียมกัน ในขณะที่นักการเมืองส่วนมากมีความประพฤติ และปฏิบัติตนราวกับเป็นเจ้าของแผ่นดิน มีอำนาจเหนือประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตนเเข้ามา ทั้งจังหวัด การนำเสนอกฎหมายตามแนวความคิดของตน หรือพวกตน โดยแอบอ้าง่าเป็นมติของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของคนพวกนี้ หากประชาชนบางส่วนจะลืมตาขึ้นมามองดูด้วยใจที่เป็นธรรม</p><p style="text-align: justify;">หากจะเปิดใจยอมรับความจริงอย่างเที่ยงตรง จะเห็นได้ว่าประชาชนบางส่วนให้ความชื่นชมต่อนักการเมืองที่มีเงิน นักการเมืองที่มีอิทธิพล นักการเมืองที่มีรูปลักษณ์สวยงาม นักการเมืองที่เป็นศิลปินดาราในดวงใจ นักการเมืองที่ได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ นักการเมืองที่มีวาทะกรรมดี และประชาชนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเฉพาะคคนที่ไร้การศึกษาเท่านั้น แต่มีทั้งคนมีความรู้ มีการศึกษา คนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในบ้านเมือง ทั้งที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แต่สรุปโดยรวมก็คือ คนเหล่านี้มีอคติต่อความจริง และเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง มากกว่าจะยอมรับโลกของความเป็นจริง</p><p style="text-align: justify;">คนรุ่นเก่า ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง เพราะขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมไทย มีคุณค่าสูงสุด ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เคียงคู่อยู่กับประเทศไทย ตลอดไปจนชั่วชีวิต เพราะเป็นสิ่งที่อีกหลายประเทศไม่สามารถมีได้ แม้ว่าจะอ้างว่ามีอารยธรรมและความเจริญสูงสุดก็ตาม เนื่องจาก ประเทศเหล่านั้นไม่มีสิ่งใด ที่จะให้ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนเอาไว้ </p><p style="text-align: justify;"><b>สังคมของคนเหล่านั้นทุ่มเทให้กับวัตถุเป็นสำคัญ ชี้นำให้ประชาชนมีความเห็นแก่ตัว มีการแก่งแย่งช่วงชิงผลประโยชน์ ราวกับว่าจะส่งเสริมให้ประชาชน ย้อนกลับไปดำเนินชีวิตเหมือนกับคนในยุคสมัยหิน</b></p><p style="text-align: justify;"><br /></p><p style="text-align: justify;"><br /></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-9615388434065982962023-08-13T11:34:00.000+07:002023-08-13T11:34:11.290+07:00ธรรมชาติยังคงพิโรธ<p></p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhtN38ohoJ6RpmNk3eC8XIXznUQQMipWx9QetdS_wnPkRTrvNzqsWLjJC_zM64z6PgZuwo_VU2tBRmaZjOdJVvtvQryQL0MbbdxrHjq3dT4kPCLHjSqMe95f8q3sBn7IQfNRJeIbcA3O6pyJbT5V1bQMSkZoRfWQELTZYceky_SS28fVBk3jK8-/s1461/covid.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="997" data-original-width="1461" height="272" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhtN38ohoJ6RpmNk3eC8XIXznUQQMipWx9QetdS_wnPkRTrvNzqsWLjJC_zM64z6PgZuwo_VU2tBRmaZjOdJVvtvQryQL0MbbdxrHjq3dT4kPCLHjSqMe95f8q3sBn7IQfNRJeIbcA3O6pyJbT5V1bQMSkZoRfWQELTZYceky_SS28fVBk3jK8-/w400-h272/covid.jpg" width="400" /></a></div><br /><div style="text-align: justify;">ยอดของผู้ติดเชื้อโควิด 19 ถึงวันนี้ จากทั่วโลก 693,186,371 คน เสียชีวิตแล้ว 6,907,147 คน โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 1,171,806 คน รองลงมาในอันดับ 2 คืออินเดีย เสียชีวิต 531,920 คน ซึ่งยังคงมีจำนวนห่างกันกว่า 2 เท่าตัว อันดับถัดลงมาก็เป็น ฝรั่งเศส เยอรมัน บราซิล ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี สหราชอาณาจักร และรัสเซีย เห็นได้ว่าการแพร่ระบาดส่วนมาก จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในยุโรป พ่วงด้วยอีก 2 ประเทศในเอเซียที่เป็นที่ตั้งกองกำลังทางทหารของสหรัฐในภูมิภาคนี้ </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 107,718,064 คนในขณะที่มีประชากรโดยรวมถึงเวลานี้ 340,210,900 คน ตัวเลขนี้ อาจจะไม่ได้เป็นที่น่าสนใจนัก สำหรับคนทั่วไป แต่ก็เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึง ความด้อยประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุข ภายในประเทศที่อวดอ้างว่ามีความเจริญสูงสุดในทุกด้าน เป็นประเทต้นแบบของอารยธรรมสมัยใหม่ ที่เชิดชูระบอบการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของระบบเศรษฐกิจอีกระดับหนึ่ง และยกตัวเองขึ้นป็นศูนย์กลางของอารยธรรมโลกสมัยใหม่ ด้วยความคิดของตนเอง </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว ลัทธิจักวรรดินิยมกับยุคของการล่าอาณานิคม เป็นจุดเริ่มต้นของการขยายตัวแพร่กระจายเชื้อโรคร้าย ที่มีเป้าหมายมุ่งทำลายอารยธรรมเก่าแก่ของมนุษย์ทั่วโลก ซึ่งมีความหลากหลาย แตกต่างกันออกไป ในการดำรงรักษาไว้ซึ่งชนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม ที่บรรพบุรุษกำหนดขึ้นมา เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ของตนเอง และสิ่งดีงามเหล่านี้เป็นขวากหนามสำคัญในการเข้าไปกลืนกินประเทศ ด้วยระบอบการปกครองที่ใช้เศรษฐกิจเป็นตัวชี้นำ ไม่ใช่ด้วยอำนาจของปวงชน ตามที่เขียนขึ้นมาบนกระดาษ และเป่าหูสาวกให้ลุ่มหลงคล้อยตาม เช่นดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้</div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">สังคมยุคใหม่ ไม่มีโอกาสได้พบเห็นความเท่าเทียมกันอย่างเด็ดขาด ตราบใดที่โลกใบนี้ยังคงมีนักการเมือง และ ยังคงมีนักธุรกิจ เพราะคน 2 จำพวกนี้ต่างหากที่มีบทบาทสำคัญที่สุด ในการกำหนดเป้าหมายและนโยบายต่าง ๆ ขึ้นมาบริหารปกครองประเทศ ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป แม้ว่าจะมีการแอบอ้างแนวทางการปฏิบัติขึ้นมาอย่างสวยหรู บนแผ่นกระดาษ ว่าเป็นการปกครอง โดยประชาชน เพื่อประชาชน ผ่านการเลือกตั้งผู้แทนเข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชน </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;"><i>ประชาชาชนทุกคน มีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ประชาชนทุกคนต้องมีความเท่าเทียมกัน </i></div><div style="text-align: justify;"><i>ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงแนวความคิดเพ้อฝัน</i></div><div style="text-align: justify;"><i>เพราะตราบเท่าทุกวันนี้ เรายังคงมีนักการเมือง มาเป็นผู้ออกกฎหมายเพื่อควบคุมชีวิตของเราอยู่ตลอดมา</i></div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;"><b>ประชาชนทั่วแผ่นดิน ควรจะตื่นขึ้นมาจากความฝันเหล่านี้ได้แล้ว</b></div><div style="text-align: justify;"><b>แล้วก็ตั้งสติ ลืมตาขึ้นมามองดูโลกให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น</b></div><div style="text-align: justify;"><b>ทุกวันนี้ ไม่ควรจะมีกบตัวไหน ยอมให้มีคนเอากะลามาครอบไว้</b></div><div style="text-align: justify;"><br /></div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-52699634551703129962023-08-11T11:19:00.000+07:002023-08-11T11:19:08.659+07:00วิกฤติการณ์ภายในประเทศ<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjxcVopf-Or1kkPBAAfIOpwDG6-5CFnliCOn6amIZNnRvjr9W-PJyY3JlDR7cl0psRkGJ7IRaVEuoryLy-0Kn_jGsrS8bM4Y6ElT3T07C5vY63fBJHiBcBVvZQSxIqSjrQcbw-5cId0WwJWESvDThioSh2hRqCpQwBDQRdBiDtqI2ISDT7ty5Pm/s1200/constitution.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="600" data-original-width="1200" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjxcVopf-Or1kkPBAAfIOpwDG6-5CFnliCOn6amIZNnRvjr9W-PJyY3JlDR7cl0psRkGJ7IRaVEuoryLy-0Kn_jGsrS8bM4Y6ElT3T07C5vY63fBJHiBcBVvZQSxIqSjrQcbw-5cId0WwJWESvDThioSh2hRqCpQwBDQRdBiDtqI2ISDT7ty5Pm/w400-h200/constitution.jpg" width="400" /></a></div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">แม้ว่าไม่อยากจะไปให้ความสนใจกับเรื่องทางการเมืองอีกแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองอยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วงอนาคตของบ้านเมือง เพราะ 3 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เหตุผลก็คงจะมาจากผลของการเลือกตั้ง ซึ่งคะแนนเสียงจำนวนมากเทลงไปที่พรรคการเมืองหนึ่งมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้มากมายพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว เหมือนกับที่พรรคไทยรักไทยเคยทำมาก่อนแล้วในอดีต ดังนั้นการมองหาพรรคการเมืองเข้ามาร่วมด้วย จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาในระบบการเมืองไทย หรือในอีกหลายๆ ประเทศบนโลกใบนี้ เพียงแต่ <b>"อุดมการณ์"</b> ของพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงสูงสุด เป็นแนวความคิดที่ "น่าเป็นห่วง" สำหรับประชาชนคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ยึดมั่นความเป็นเสาหลักของความเป็นไทย คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และในที่สุดก็ประกาศจัดมั่นทำข้อตกลง กับอีก 7 พรรคการเมือง เข้ามาร่วมจัดตั้งรับาล ซึ่งพรรคการเมืองหนึ่ง มีอดีตที่เคยเป็นรัฐบาลมาแล้วหลายสมัย ในหลายชื่อ หลายผู้นำ โดยมี "ผู้ควบคุมพรรค" ที่ประชาชนทั่วไปรับรู้และมองเห็นได้อย่างชัดเจน </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">การที่หัวหน้าพรรค ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากสมาชิกรัฐสภา แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้คะแนนเสียง "ให้ความเห็นชอบ" ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และการถูกเสนอชื่อซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ก็ไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมือง อยู่บนทองถนนติดต่อกันมานานนับปี</div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">พรรคการเมืองอันดับ 2 จึงรับภาระในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป โดยเริ่มแสวงหาพรรคการเมืองเข้ามาร่วม ทั้งนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อตกลงระหว่างกัน "ให้ซับซ้อน" มากยิ่งขึ้น กับพรรคการเมืองที่เคยเป็นกลุ่มรัฐบาลเก่า อันเป็นการกลับคำพูดที่เคยกล่าวไว้ในช่วงของการหาเสียง ทำให้เกิดเสียงสะท้อนกลับมาจากประชาชนผู้สนับสนุนจำนวนมาก </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">แต่แนวนโยบายหลักของเกือบทุกพรรคการเมือง พุ่งตรงไปที่ <b>"การแก้ไขรัฐธรรมนูญ" </b>โดยระบุว่าปัญหาสำคัญของบ้านเมืองในเวลานี้ก็คือ <b>"วิกฤติรัฐธรรมนูญ"</b> ขณะที่ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน หรือปัญหาความขัดแย้งในสังคม กลับกลายเป็นปัญหาที่มีลำดับความสำคัญรองลงไป นี่เป็นความคิดเห็นของนักการเมือง แต่แผ่กระจายไปสู่ความคิดของประชาชนผู้สนับสนุน (ที่ไม่มีวิจารณญาณของตัวเอง)</div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;"><b>นับตั้งแต่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกมาถึงทุกวันนี้ มีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข ยกเลิก รัฐธรรมนูญมาแล้วหลายครั้งหลายหน ทุกครั้งไม่ได้เกิดมาจากความต้องการของประชาชน แต่เกิดมาจากนักการเมือง ซึ่งต้องการได้รับ "ผลประโยชน์" จากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ </b></div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">นี่คือ <b>"วิกฤติการณ์ทางการเมือง"</b> ที่กำลังทำร้ายประเทศชาติ จากความเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนของนักการเมือง เป็นช่วงเวลาที่นักธุรกิจระดับชาติ ดำเนินการแสวงหาผลประโยชน์จากการเมืองอย่างเต็มที่ และเป็นความร่วมมือกันของ <b>"นักธุรกิจ กับ นักการเมือง"</b> ในการกอบโกยผลประโยชน์ จากทรัพยากรของประเทศ ด้วยความหิวกระหาย โดยอ้างว่าเป็นความต้องการของประชาชน ทุกอย่างเกิดขึ้นมาได้ด้วยความช่วยเหลือของข้าราชการประจำ ที่แอบอิงแสวงหาผลประโยชน์อยู่กับกลุ่มการเมืองมาทุกยุคทุกสมัย</div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;"><br /></div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-37939722392899004122023-06-26T18:24:00.005+07:002023-06-26T18:24:58.054+07:00สังคมไทยใหม่...<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhooOl-QqVlhZjwbNNowZJ9c_fjgHZ0RTn_wbLd1habWAZWKKNYAOU_I6-Kra_k2Yb2vRU_EXY1r9QEbxl5pZFsjRrs-WEfa1q2OM2yAR8vfusBq2mwmOyA7qPzgIVZfczlo_peLlGe_8DVNWvK_ulBIkfHMPDn_NWYHleutAVtGgqCYvspCnpC/s1280/0001.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="720" data-original-width="1280" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhooOl-QqVlhZjwbNNowZJ9c_fjgHZ0RTn_wbLd1habWAZWKKNYAOU_I6-Kra_k2Yb2vRU_EXY1r9QEbxl5pZFsjRrs-WEfa1q2OM2yAR8vfusBq2mwmOyA7qPzgIVZfczlo_peLlGe_8DVNWvK_ulBIkfHMPDn_NWYHleutAVtGgqCYvspCnpC/w400-h225/0001.jpg" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div style="text-align: justify;">ไม่แปลกอะไร ? หากจะตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องเหมาะสมของระบบการศึกษาไทย ว่าตรงกับจริตของคนยุคใหม่มากน้อยเพียงใด ? หรือหากจะพูดให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ก็ควรจะตั้งคำถามว่า คนยุคใหม่มีความต้องการที่จะศึกษาหาความรู้จากสถานศึกษาตามระบบหรือไม่ ? เพราะดูเหมือนว่าในปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์จะเข้ามากำกับควบคุมวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ไปจนหมดสิ้นแล้ว และกำลังกระชากฉุดดึงวิถีชีวิตแบบไทย ๆ ให้สูญสิ้นมลายหายไปจากกมลสันดานที่บรรพบุรุษได้ปลูกฝังเอาไว้ ต่อเนื่องยาวนานมาหลายร้อยปี </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">อย่างแรกก็คือ การใช้ภาษาไทย ตามแบบอย่างที่คนไทยทุกคนควรจะมีโอกาสได้รับรู้ เริ่มต้นจากสังคมระดับครอบครัว ซึ่งพ่อแม่และบรรดาญาติโกโหติกามีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กันมาอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เริ่มลืมตาขึ้นมามองดูโลก อย่างน้อยที่สุดก็คือ สุภาษิตกับคำพังเพยไทยมากมายหลายเรื่อง ที่มีให้เรียนรู้ได้จากวิถีชีวิตแบบต่อเนื่องตลอดเวลา ตั้งแต่พอจำความได้จนถึงช่วงเวลาที่หลับตาสิ้นลมหายใจ แต่มาถึงวันนี้สังคมเริ่มเปลี่ยนไป บรรดาคำคมต่าง ๆ มีแต่คนแอบคัดลอกมาจากบรรดานักปราชญ์ต่างชาติต่างภาษา โดยอ้างว่ามีระดับน่าเชื่อถือมากกว่าของคนไทยยุคโบราณ บางครั้งก็เป็นเพียงคำพูดของเศรษฐีคนมีเงิน หรือคำพูดของบรรดาศิลปินดาราที่เป็นขวัญใจของตน ซึ่งรับรองได้เลยว่าคนพวกนี้ก็แอบลักจำมาจากในหนังสือหรือจากคำพูดของคนอื่นนั่นแหละ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคนพวกนี้มีสติปัญญาล้ำเลิศเหนือมนุษย์ แต่ก็ยังมีคนยุคใหม่จำนวนมากนิยมยกย่อง ... และ..นี่เป็นแนวคิดที่น่าเวทนาอย่างที่สุด </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">ในชีวิตประจำวัน ยอมรับได้ว่าเข้าไปท่องโลกของสังคมออนไลน์อยู่ทุกวันเหมือนกัน เพียงเพื่อมองดูความเป็นไปของบ้านเมือง กับเฝ้าติดตามมองดูพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงทางขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีไทย ได้พบเห็นการใช้ภาษาไทยแบบวิบัติตามยุคสมัย ซึ่งอันที่จริงแล้วก็คงไม่เชิงเจตนาสร้างสรรค์คำขึ้นมาใหม่หรอก เพียงแต่คนพวกนี้ไม่สามารถสะกดภาษาไทยบางประโยคได้อย่างถูกต้องเสียมากกว่า เพราะข้อจำกัดเรื่องความรู้ที่ได้รับมาจากสถาบันการศึกษา ทำให้ได้พบเห็นหลักการใช้ภาษาไทยตามแบบคนยุคใหม่ ซึ่งส่อเค้าลางให้มองเห็นถึงความล่มสลายทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับภาษา ในเวลาอีกไม่นานนัก </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">เวลาส่วนมากในการใช้อินเตอร์เน็ตในช่วงท้ายของชีวิต จึงพอใจที่จะเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีมากกว่า ขอย้ำว่าเสียงดนตรี ไม่ใช่เสียงเพลง เพราะเบื่อหน่ายต่อแนวคิดในความชอบเรื่องแนวเพลงของแต่ละคน จึงเลือกที่จะฟังเฉพาะเสียงดนตรีที่ปราศจากเสียงของคน เพราะดนตรีไม่มีการแบ่งแยกภาษาและเชื้อชาติ กับอีกเรื่องในการท่องสังคมออนไลน์ ก็คือการมองหาสิ่งที่ชอบและอยากได้มา บางทีีอาจจะเป็นเรื่องของปมด้อยในวัยเด็ก ที่ไม่เคยได้สิ่งของที่ต้องการสักอย่างเดียว บางครั้งนึกย้อนไปถึงช่วงที่ถอดลำโพงวิทยุของพ่อออกมาต่อสายให้ยาวขึ้น แล้วเอาไปวางไว้บนปากปี๊บเพื่อให้ได้เสียงที่ดังมากกว่าเดิม ดังนั้น ในวันนี้จึงหมดเงินไปกับการสรรหาลำโพง หรือเครื่องขยายเสียงเล็ก ๆ แล้วมาออกแรงต่อตู้ลำโพง ประกอบเข้าด้วยกัน ตามที่ใจต้องการ </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">อยากทำอะไรก็ทำไป ตราบใดที่ไม่ไปกระทบกระเทือนถึงวิถีชีวิตของคนอื่น </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกได้ไม่นาน ก็อยากจะเปลี่ยนโลกทั้งใบ ที่ไม่ใช่ของคนเพียงคนเดียว</div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-64176500797701812502023-06-06T20:20:00.003+07:002023-06-06T20:20:43.631+07:00ประชาธิปไตย ?<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjfo2em_bT5h1rfcohDzzp0j_BdNSAGWWvW8hK1thmKBRSQn_0oVtCCvMYOJjCJ_S8mY4-OjV1BgArzarR35J8oCoZx1r2chov4LEGn8s5heJVC7ntMQ1Zn-ZdQYZI2YrNZ35B31ww6OTv5MsEmKSb0S6f718BkMJf77hQm3Kcm8TrHAcBwrg/s1920/b01.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjfo2em_bT5h1rfcohDzzp0j_BdNSAGWWvW8hK1thmKBRSQn_0oVtCCvMYOJjCJ_S8mY4-OjV1BgArzarR35J8oCoZx1r2chov4LEGn8s5heJVC7ntMQ1Zn-ZdQYZI2YrNZ35B31ww6OTv5MsEmKSb0S6f718BkMJf77hQm3Kcm8TrHAcBwrg/w400-h225/b01.jpg" width="400" /></a></div><br /><p></p><p style="text-align: justify;">ใครที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่เป็นประจำ ต้องได้ยินคำว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" บ่อยครั้งมาก เพียงแต่จะมีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นมาในใจอย่างเลี่ยงไม่พ้น เมื่อมองจากพฤติกรรมการแสดงออกของคนกลุ่มนี้บางคน เพราะทำให้รู้สึกสับสนกับคำว่าประชาธิปไตยที่เคยได้เรียนรู้มาในอดีต อาจจะเป็นเพราะกาลเวลาที่ผ่านไป ก็เป็นได้ ที่ทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไปจากเดิม โดยการตีความไปว่า การทำรัฐประหาร คือการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นรัฐบาลที่เกิดขึ้นต่อจากช่วงเวลานั้น เป็น "รัฐบาลเผด็จการ" ก็เป็นการตีความแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องขยายความ เพราะถ้าหากขยายความต่อไปอีก ก็อาจจะเกิดความสับสนขึ้นมามากกว่าเดิม</p><p style="text-align: justify;">แต่คนเหล่านี้ (ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย) ไม่เคยได้ชี้แจงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ว่ารัฐบาลเผด็จการของพวกเขา ก็มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเช่นเดียวกัน แม้ว่าคะแนนเสียงจะมากกว่า แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงจากพรรคเล็ก ๆ เข้ามาร่วมได้ รัฐบาลเผด็จการของพวกเขา ก็มาจากการเลือกตั้งเช่นเดียวกันกับพวกเขา และมีพรรคการเมืองอื่นพร้อมที่จะเข้ามาร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากเป็นรัฐบาลเผด็จการจริง การเลือกตั้งก็คงไม่มีวันที่จะเกิดขึ้นมาได้ </p><p style="text-align: justify;">อีกประการหนึ่งคือ การทำรัฐประหารคงไม่เกิดขึ้น หากว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะไม่ส่อเค้าว่าจะลุกลามบานปลายกลาย มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และเกิดเป็นสงครามกลางเมืองในที่สุด ทั้งนี้สาเหตุเกิดมาจากการทุจริตคิดมิชอบของรัฐบาล ที่แปรสภาพจากตัวแทนของประชาชนมาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน บริหารประเทศจนเกิดผลเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างร้ายแรง เมื่อถึงที่สุดแล้ว ทหารจึงเป็นปราการด่านสุดท้ายในการออกมาพิทักษ์รักษาความเป็นชาติเอาไว้ </p><p style="text-align: justify;">เพราะเป็นหน้าที่ ซึ่งบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ<br />และเป็นหน้าที่ของทหารมาตั้งแต่ยุคเก่าแก่ ก่อนที่จะมีประชาธิปไตยเกิดขึ้นมาในสังคมด้วยซ้ำไป</p><p style="text-align: justify;"><b>ประเทศชาติสามารถดำรงอยู่ได้ โดยไม่ต้องมีนักการเมือง</b></p><p style="text-align: justify;"><b>แต่ประเทศชาติที่ไม่มีทหาร ไม่สามารถรักษาแผ่นดินเอาไว้ได้แน่นอน</b></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-13717241936909709562023-05-18T23:24:00.003+07:002023-05-18T23:24:59.741+07:00เส้นทางแห่งตัณหา<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEggIcUPbGROOH45kIzn742fn-b7p01TkU_l2MQ4XHhEgjCBnz4Gs5pMYavRHW3m55dNLEjuVjcBIHj0rYTHpq4rh4fKbB0HDg1Cyg5goOXkJLGeXQS--RvfpVpTlJXyCK9SbavxnQUc2ihriRuLJUFBUoXNGEvLMDo8BDYfFrNTet1uc3mZLg/s1920/blog01.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEggIcUPbGROOH45kIzn742fn-b7p01TkU_l2MQ4XHhEgjCBnz4Gs5pMYavRHW3m55dNLEjuVjcBIHj0rYTHpq4rh4fKbB0HDg1Cyg5goOXkJLGeXQS--RvfpVpTlJXyCK9SbavxnQUc2ihriRuLJUFBUoXNGEvLMDo8BDYfFrNTet1uc3mZLg/w400-h225/blog01.jpg" width="400" /></a></div><br /><p></p><p style="text-align: justify;">จะขอไม่พูดถึงผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะคงเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่อดไม่ได้ที่จะขอพูดถึงเรื่องทางการเมือง เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม ที่ฝากอนาคตเอาไว้ในกำมือของนักการเมือง ด้วยความหวังว่าจะมีส่วนช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของตนดีขึ้นกว่าเดิม โดยแกล้งลืมไปว่าไม่อาจที่จะฝากความหวังไว้กับนักการเมืองได้เลย นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และหมายความรวมไปถึงอนาคตอีกด้วย </p><p style="text-align: justify;">ได้พูดย้ำไปถึงที่มาของนักการเมืองไปแล้วหลายครั้งหลายหนว่า มีจุดกำเนิดมาจากตัณหาของมนุษย์ ที่มีความทะยานอยากหลายประการ ที่นอกเหนือไปจากความต้องการในปัจจัยขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทั่วไป เริ่มจากความต้องการที่จะยกตนขึ้นมาเป็นใหญ่ มีอำนาจเหนือผู้อื่น ความต้องการที่จะได้รับความนิยมยกย่อง เป็นที่กล่าวขวัญถึงของบุคคลทั่วไป ความต้องการที่จะมีชื่อจารึกเอาไว้ในประะวัติศาสตร์ และในสังคมยุคใหม่ ซึ่งเป็นยุคของประชาธิปไตยจอมปลอมที่สวมคลุมทับอำนาจทุนนิยมเอาไว้ภายใน ได้อาศัยพลังของประชาชนซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในสังคม ให้กลายมาเป็นเครื่องมือหลักในการช่วงชิงอำนาจเหล่านั้นเข้ามาไว้ในกำมือ ในการสร้างอำนาจทางการเมือง เพื่อเข้ามาบริหารปกครองประเทศ ให้เป็นไปตามแนวทางและความต้องการของตน ไม่ใช่ตามเจตนารมณ์ของประชาชน </p><p style="text-align: justify;">คำว่า สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันในสังคม ถูกนำมาใช้อย่างพร่ำเพรื่อบ่อยครั้ง ในการประชาสัมพันธ์โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตย โดยที่ตัวตนของนักการเมืองเหล่านั้นเอง ก็ยังไม่เคยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปก็สามารถพบเห็นความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้มาด้วยตนเองในชีวิตประจำวันเช่นกัน เพียงแต่ทุกคนพากันเพิกเฉยต่อความเป็นจริงที่ปรากฏแก่สายตา และยอมรับในความเหลื่อมล้ำของศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ที่เกิดขึ้น</p><p style="text-align: justify;">หลายคนไม่นำพาต่อสิทธิพิเศษของนักการเมืองที่มีอยู่เหนือประชาชน ข้าราชการหลายคนหมอบกราบให้กับนักการเมือง เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา เพราะนี่คือวงจรอุบาทว์ของระบอบอุปถัมภ์ในการเมืองไทย ที่มีมาอย่างยาวนานสืบเนื่องติดต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย แม้แต่ในกลุ่มการเมืองที่เคยต่อต้านระบบนี้มาอย่างแข็งขันก็ตาม อำนาจที่ได้มาอยู่ในกำมือก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่่างสิ้นเชิง </p><p style="text-align: justify;">ไม่ว่าสังคมโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากเพียงใดก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ในแผ่นดินก็ยังคงตกเป็นเครื่องมือที่สำคัญของนักการเมืองอยู่ดังเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในสังคมยุคใหม่ที่ประชาชนเริ่มเข้ามาเดินอยู่บนเส้นทางของสื่อสังคมออนไลน์นานาชนิด ด้วยความหวังที่เลื่อนลอยไร้จุดหมายปลายทาง ตกเป็นเหยื่อของนักธุรกิจการเมืองต่อไปตราบจนสิ้นลมหายใจ</p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-9293613425191244732023-05-11T23:42:00.001+07:002023-05-11T23:42:10.446+07:00มรสุมการเมือง<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgtn30PThlNioFk_B0WPdL7vA0RbVputuNMPPZKPnrEZzB0eefrtPtTFqJGDf4bjQ09i8hDZKFBhsVDToFNGM3hnUnEeMx6bYhMkGXfyUO-vcoJPGGC990Ba11RCgJzyQWX1V1EO-NXgoI3tj-SlP98FWyImWXuKKGvm4-Fewv3YLgSq1lRVA/s1920/001.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgtn30PThlNioFk_B0WPdL7vA0RbVputuNMPPZKPnrEZzB0eefrtPtTFqJGDf4bjQ09i8hDZKFBhsVDToFNGM3hnUnEeMx6bYhMkGXfyUO-vcoJPGGC990Ba11RCgJzyQWX1V1EO-NXgoI3tj-SlP98FWyImWXuKKGvm4-Fewv3YLgSq1lRVA/w400-h225/001.jpg" width="400" /></a></div><br /><p></p><p style="text-align: justify;">14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งใหม่ล่าสุด ซึ่งปรากฎเค้าให้เห็นถึงมรสุมทางการเมืองครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งทุกครั้งในบ้านเมืองเรา และสาเหตุของความวุ่นวายที่ผ่านมา ก็เกิดมาจากคนกลุ่มเดิม ๆ ซึ่งมีทั้งนักการเมืองระดับเขี้ยวลากดิน รวมถึงบรรดานักธุรกิจการเมือง และนายทุนทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนสูงอายุที่เคยเดินเข้าไปกาบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า </p><p style="text-align: justify;">เพียงแต่การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ เพิ่มนักการเมืองสาย "พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน" ขึ้นมาใหม่อีกขบวนหนึ่ง และเป็นขบวนการที่มีการระดมปลุกปั่นคนรุ่นใหม่วัยเยาว์ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ยุคใหม่ ที่มีอยู่มากมายหลายช่องทาง สะดวกต่อการเผยแพร่แนวคิดนอกกรอบ หรือข้อมูลข่าวสารที่ถูกบิดเบือน ยากต่อการตรวจสอบติดตามจากทางราชการ คนกลุ่มนี้พยายามป้อนแนวคิดที่ผิดเพี้ยน ให้แพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ล้างสมองของเยาวชนโดยเริ่มตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา โดยบรรดาครูบาอาจารย์ที่มีแนวความคิดแบบสุดโต่ง ในการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง </p><p style="text-align: justify;">ที่สำคัญที่สุดคือ ความพยายามที่จะสื่อสารปลุกเร้าคนรุ่นใหม่ เริ่มจากการเสนอแนวความคิดในการล้มล้างสถาบันหลักของชาติ อันได้แก่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมใจของคนไทยทั้งชาติมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่บรรพบุรุษ มีความพยายามในการละทิ้งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ที่ถูกอบรมสั่งสอนสืบต่อกันมามา โดยพ่อแม่ปู่ย่าตายายในสถาบันครอบครัว ตั้งแต่คนไทยทุกคนลืมตาดูโลก </p><p style="text-align: justify;">คนที่มีชีวิตยืนยาวมาหลายสิบปี ย่อมมองออกได้ถึงเหตุผลที่ประเทศไทย สามารถยืนยงอยู่มาได้ยาวนานจนถึงทุกวันนี้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ก็เป็นเพราะบารมีของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่ของมหาอำนาจทั้งหลาย ที่มุ่งหวังจะเข้ามาครอบครองชาติ และกำลังอาศัยความร่วมมือจากคนไทย "ขายชาติ" บางคน ทำลายความมั่นคงของชาติในเรื่องนี้ เพื่อให้ความหวังเหล่านี้เป็นจริง</p><p style="text-align: justify;">มีข้อกล่าวอ้างของคนรุ่นใหม่บางคนพูดถึงการทำ "รัฐประหาร" ว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในความก้าวหน้าของประเทศ และเป็นการแย่งชิงอำนาจในการปกครองที่เป็นของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว <b>การทำรัฐประหารทุกครั้ง เป็นการ "ทวงคืนอำนาจ" จากนักการเมืองเลว ๆ</b> ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ จากการทุจริตฉ้อฉลคดโกง โดยอาศัยอำนาจจากตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง ดังนั้น <b>การทำรัฐประหารทุกครั้ง จึงไม่ไม่ใช่การแย่งชิงอำนาจจากมือของประชาชน</b></p><p style="text-align: justify;">สังคมไทยยุคใหม่ กำลังตกอยู่ในหลุมดำของคำโกหก จากสื่อสังคมออนไลน์ และจากอำนาจเงินของนักธุรกิจการเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มนายทุนที่ต้องการเพียงผลกำไรส่วนตัวเท่านั้น แต่มักจะกล่าวอ้างไปถึงเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ </p><p style="text-align: justify;">จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่จะพบว่า นักการเมือง เกือบทุกคน ในทุกประเทศของทั้งโลก ล้วนแต่ประกอบธุรกิจส่วนตัวทั้งสิ้น </p><p style="text-align: justify;">14 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ อาจจะเป็นทางเลือกครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต หากยังต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนาน ภายใต้อำนาจอธิปไตยจากทั้ง 3 ของสถาบันหลักของชาติไทย</p><p style="text-align: justify;"><br /></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-25919520102924106272022-05-12T20:05:00.002+07:002022-05-12T20:05:33.055+07:00กระแสสังคม<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgy3gtyncXWkUm34FRtcPWBdHHbbJFgnTOB9v1MJbT_d9Cok6BfShaJ_aCp1tvgsCgebiI9JtEDpYGz015E7SWnZN_qJFFRZbCgzulziYsq55WJBTrMe_D5InkToWHcciNRwGch-oykoVUiz_HbHxdwRXSKxSUGW7TfXAS_B4jz6JNtKcnYOQ/s1011/bg2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="688" data-original-width="1011" height="272" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgy3gtyncXWkUm34FRtcPWBdHHbbJFgnTOB9v1MJbT_d9Cok6BfShaJ_aCp1tvgsCgebiI9JtEDpYGz015E7SWnZN_qJFFRZbCgzulziYsq55WJBTrMe_D5InkToWHcciNRwGch-oykoVUiz_HbHxdwRXSKxSUGW7TfXAS_B4jz6JNtKcnYOQ/w400-h272/bg2.jpg" width="400" /></a></div><br /><p></p><p style="text-align: justify;"><span>จำได้ว่าสัมผัสกับคอมพิวเตอร์ครั้งแรกในช่วงปี 2533 ซึ่งเป็นการเริ่มเข้ามาถึงของคอมพิวเตอร์ในหน่วยทหารแนวชายแดนที่เข้ารับราชการอยู่ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปเรียนรู้โดยตรงจามขั้นตอนแต่ประการใด เพียงแต่ไปแอบยืนดูกำลังพลที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าไปฝึกฝนการใช้งาน ระบบคอมพิวเตอร์ในตอนนั้นใช้แผ่นโปรแกรมระบบปฏิบัติการแบบดอส ต้องจดจำโค๊ดสำหรับการใช้งานมากมาย แผ่นที่ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลก็มีความจุเพียง 1.44 เมกะไบท์ โปรแกรมที่ใช้พิมพ์งานเอกสารก็เป็น โปรแกรมเวิร์ดจุฬา พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งก็เริ่มมีระบบปฏิบัติการวินโดว์เข้ามา ทำให้การใช้งานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น</span><br /></p><p style="text-align: justify;"><span>หลังจากแอบไปดูคนอื่นใช้งานได้สักพักก็ตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาไว้ที่บ้านเครื่องหนึ่ง ระบบปฏิบัติการเป็นวินโดว์ 98 พอจำได้เลือนลางว่าเป็นซีพียูของเอเอ็มดี 350 เมกะเฮิสท์ ความจุของฮาร์ดดิสก์ 8 กิกกะไบท์ นั่นคือช่วงปี 2536 และจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาใช้งานแล้วถึง 9 เครื่อง ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีใช้งานอยู่ 3 เครื่อง แท็ปเล็ตอีก 1 เครื่อง และเครื่องที่แพงที่สุดก็เป็นโน็ตบุ๊คที่มีราคาเกือบ 2 หมื่นบาท ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอีก 1 เครื่องที่มีอยู่ แต่ในความเป็นจริงเครื่องที่ใช้งานอยู่ทุกวันจนถึงในขณะนี้ซื้อมาจากร้านค้าออนไลน์ในราคาไม่ถึง 3 พันบาทถึง 2 เครื่อง แต่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ 10 ทั้งนั้น ฮาร์ดดิสก์ก็ไม่ใช่แบบจานหมุนแต่เป็นแบบ เอสเอสดี ทั้งหมด</span></p><p style="text-align: justify;"><span>จากความคุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์มาเป็นเวลายาวนานเกือบ 30 ปี ยอมรับว่าได้รับความรู้เพิ่มเติมเข้ามาในสมองมากมายมหาศาล ได้รูในเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน ได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ในเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งในอดีต และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกมากมาย ทั้งหมดนี้มีอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ แต่ต้องทำใจยอมรับว่าข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมานั้น จะมีทั้งสีดำและสีขาว เป็นการตัดสินใจของผู้เสพข้อมูลนั้นว่าจะมีวิจารณญาณและสามัญสำนึกอยู่ในระดับใด มากเพียงพอที่จะทำการไตร่ตรองความถูกต้องของข้อมูลนั้นหรือไม่</span></p><p style="text-align: justify;"><span>และจะต้องทำใจกับความคิดเห็นต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปว่ามาจากความคิดของผู้คน ที่มีอยู่หลากหลายและแตกต่างกันในด้าน เพศ วัย อาชีพ ประสบการณ์ชีวิต และวิจารณญาณ และก็ไม่แปลกที่จะพบว่าในบางความคิดเห็นจะเป็นของเด็กอายุไม่ถึง 10 ปี ที่ถูกสังคมรอบข้างหล่อหลอมมาให้ก้มหน้าหมกมุ่นอยู่กับอุปกรณ์สื่อสารมาตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลก เล่นเกมส์ พูดคุย หรือแสดงความอวดรู้ ในเรื่องที่เกินกว่าสติปัญญาของตัวเองจะรู้จริง เด็กเหล่านี้ไม่ได้สนใจที่จะมองหาประโยชน์หรือความรู้จากเทคโนโลยีสมัยใหม่แม้แต่น้อย ต้องการเพียงสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองเท่านั้น</span></p><p style="text-align: justify;"><span>น่าเสียดายที่วิทยาการและเทคโนโลยี ไม่ได้มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างวิจารณญาณในการแยกแยะสีดำและสีขาวออกจากกัน แต่คนรุ่นใหม่พร้อมที่จะเดินไปบนเส้นทางสีเทาด้วยความเต็มใจ </span></p><p style="text-align: justify;">ผ้าขาวทุกผืนที่ถูกสร้างขึ้นมา พร้อมที่จะยอมรับสีดำที่เข้ามาแปดเปื้อน หากว่าความมัวหมองของสีเทาสามารถทำให้พวกเขาก้าวเดินไปบนเส้นทางชีวิตได้อย่างไม่กังวลในความแตกต่างกับคนอื่นในสังคม</p><p style="text-align: justify;"><span><br /></span></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-15080455088305973742022-01-20T23:00:00.003+07:002022-01-20T23:00:19.243+07:00สวัสดีปีใหม่ 2565<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/a/AVvXsEiXQK9Bl5wdKVPaDaCtGXj_-6iaxSp8HXwMl0Fd4-w1Gsd5NP5aLcdJXzVxjNzCOYqntBwi7135z7CMJT3cWnRvrkJBuchK_MpiUB86iXrCXk73aD0FCFc521KtNqskFRCfy9kidhv23mgUOKTX0W-CVuZN4pGzYI9Yze8InalOG8nWQJVDpQ=s1920" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1080" data-original-width="1920" height="360" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/a/AVvXsEiXQK9Bl5wdKVPaDaCtGXj_-6iaxSp8HXwMl0Fd4-w1Gsd5NP5aLcdJXzVxjNzCOYqntBwi7135z7CMJT3cWnRvrkJBuchK_MpiUB86iXrCXk73aD0FCFc521KtNqskFRCfy9kidhv23mgUOKTX0W-CVuZN4pGzYI9Yze8InalOG8nWQJVDpQ=w640-h360" width="640" /></a></div><br /><p></p><p style="text-align: justify;">การเงียบหายไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง จากที่เคยแวะเวียนเข้ามาบ่อย ๆ อาจจะดูผิดปกติไปมาก โดยเฉพาะในเมื่อมีอายุมากขึ้นทุกปี หากเงียบหายไปนานมาก อาจจะหมายถึงการหายสาบสูญไปเลยก็เป็นได้ เพราะเวลานี้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม เริ่มจะผิดเพี้ยนไปจากที่เคยเป็นมาในอดีต การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้กินระยะเวลาที่ยาวนานมากเหลือเกิน ที่สำคัญที่สุดก็คือจำนวนยอดของผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส ที่สูงถึง 5,588,302 คน( ณ เวลา 12.00 น.ของวันนี้) พร้อมกับยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่สูงถึง 339,155,202 คน แม้ว่าจะรักษาพยาบาลจนหายเป็นปกติไปแล้ว 261,974,452 คน แต่ยอดของผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวอยู่ก็มากมายเสียเหลือเกิน ขณะที่การแพร่ระบาดยังคงดำนินต่อไป และดูเหมือนว่าจะมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดเอาเสียเลย </p><p style="text-align: justify;">สถานการณ์ทั่วโลกในเวลานี้ บีบบังคับให้ทุกประเทศ ต้องกำหนดมาตรการป้องกันขึ้นมา เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับความพยายามในการรักษาระบบเศรษฐกิจของประเทศเอาไว้ให้ได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของผู้นำทุกรัฐบาลบนโลกใบนี้</p><p style="text-align: justify;">แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ยังสามารถพบเห็นความพยายามในการแสวงหาผลประโยชน์ ของนักการเมือง หรือ นักธุรกิจการเมือง เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความยุ่งเหยิงของสถานการณ์ และยังจะสามารถพบเห็นความพยายามในการสร้างสงครามตัวแทนขึ้นมา มีความพยายามที่จะแสวงหาสนามทดสอบอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ ของบรรดาชาติมหาอำนาจ และสนามทดสอบที่นิยมกันมากก็คงจะเป็นแถบเอเซียนี่เอง เนื่องจากมีความพร้อมในด้านทรัพยากร ที่อาจจะพอหยิบฉวยติดมือกลับบ้านไปได้บ้าง หลังจากที่ขายอาวุธให้ไปแล้ว จากนั้นก็จะต้องมีการสถาปนารัฐบาลประชาธิปไตยขึ้นมารองรับ เพื่อที่จะเข้ามากอบโกยทรัพยากรที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของประเทศที่ตกเป็นเหยื่อ ... มันเป็นบทละครเก่า ๆ ที่ยังคงถูกนำมาแสดงอย่างไม่รู้เบื่อ</p><p style="text-align: justify;">จะเห็นได้ชัดเจนว่า โลกใบนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้พบกับความสงบสุขอย่างแน่นอน เพราะความเท่าเทียมกันไม่เคยมีอยู่จริงในสังคม แม้แต่ประเทศที่อวดอ้างว่าเป็นต้นแบบประชาธิปไตย แม้ว่าจะแกล้งทำเป็นลืมหรือแกล้งจำไม่ได้ว่า ในอดีตนั้น ใครเป็นผู้ล่าอาณานิคม ? ใครเป็นผู้รุกรานรุกล้ำอธิปไตยของชาติอื่น ? และใครเป็นผู้ผลิตอาวุธ ? ใครที่ชอบกล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้เหตุผล ? ใครที่ชอบแทรกแซงกิจการภายในของผู้อื่น ?</p><p style="text-align: justify;">ปัญหาภายในครอบครัวก็คือปัญหา ปัญหาของรัฐบาลในทุกประเทศก็คือปัญหา ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกก็เป็นปัญหา จะแตกต่างกันก็เพียงที่มาของปัญหา และวิธีการในการแก้ไขปัญหา แต่โดยสรุปแล้วก็คือ</p><h4 style="text-align: justify;"><b>มนุษย์นี่เอง คือ แหล่งกำเนิดของทุกปัญหา</b></h4><div><span style="color: red;">เพราะภัยธรรมชาติทุกชนิด แม้ว่าจะไม่ได้เกิดจากน้ำมือมนุษย์ แต่พฤติกรรมของมนุษย์ ก็คือต้นตอของปัญหา รวมไปถึงแหล่งกำเนิดที่น่าเคลือบแคลงของเชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในเวลานี้</span></div><div><span style="color: red;"><br /></span></div><div>การกำจัดต้นตอของปัญหา ไม่ใช่เรื่องยาก</div><div>เพียงแต่มนุษย์ต้องยอมรับความจริง ในกิจกรรมของชีวิต</div><div><br /></div><h4 style="text-align: left;"><b>และยอมสละทิ้ง ... ตัณหา</b></h4>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-22421999537546046932021-09-17T13:27:00.004+07:002021-09-17T13:28:38.835+07:00อารมณ์พาไป<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://1.bp.blogspot.com/-KwavppDrjW0/YUQvclT84GI/AAAAAAAAS3Q/SX6acJyCJHQsCD3HQzPG6mXYa7BMrYHDwCLcBGAsYHQ/s1366/170921.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="768" data-original-width="1366" height="360" src="https://1.bp.blogspot.com/-KwavppDrjW0/YUQvclT84GI/AAAAAAAAS3Q/SX6acJyCJHQsCD3HQzPG6mXYa7BMrYHDwCLcBGAsYHQ/w640-h360/170921.jpg" width="640" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากทั่วโลกช่วงเวลานี้อยู่ที่ 227,833,865 คน กับยอดผู้เสียชีวิต 4,689,540 คน ตัวเลขส่วนมากมาจากสหรัฐอเมริกามีจำนวนสูงที่สุด นี่อาจจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของโลกเสรีในทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความไร้ประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุข หรือความล้มเหลวในการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤติจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งเมื่อมองแล้วรู้สึกผิดหวังกับคำโฆษณาชวนเชื่อจากบรรดาสาวกคลั่งประชาธิปไตยในบ้านเรา ที่ยังคงมัวเมาลุ่มหลงไปกับความยิ่งใหญ่ของประเทศนี้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ยอดผู้เสียชีวิตใกล้จะแตะ 7 แสนคนของสหรัฐอเมริกา น่าจะเตือนสติให้บรรดาสาวกได้พากันลืมตาแล้วก็เหลียวหน้าหันไปมองให้รอบตัวดูเสียบ้าง แล้วก็เริ่มตั้งสติให้ดีแล้วทบทวนดูเสียใหม่ว่า ประชาชนต้องการอะไร ? อย่าเอาความคิดของตัวเองมาเป็นตัวตั้ง เพราะมันผิดตั้งแต่เริ่มมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาแล้ว ไม่มีใครบังอาจตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลได้ ต่อให้มีความรู้ท่วมหัวก็ตาม แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าความคิดของตัวเองนั้นถูกต้องไปเสียหมดทุกเรื่อง และแนวความคิดในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองของประเทศที่มีอยู่ในสมองนั้น มันเหมาะสมกับความเป็นประเทศไทยหรือไม่ ? แล้วเอาอะไรมาเป็นเครื่องชี้วัดว่าประชาชนทั้งประเทศมีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">คนบางคนเกิดมาท่ามกลางความสุขสบาย ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมามองดูโลกก็ได้รับการเอาอกเอาใจ มองเห็นการทำงานเพื่อกอบโกยทรัพย์สมบัติของบุพการี พอได้รับการศึกษาเติบโตขึ้นมา ก็มองเห็นช่องทางในการกอบโกยทรัพย์สินให้ได้มากกว่าบุพการี ทุกวินาทีก็มองหาแต่ช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์จากแผ่นดิน และมองประชาชนทั่วไปว่าเป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่งที่จะถูกนำมาใช้ เพื่อเป็นบันไดไต่ขึ้นไปสู่ความสำเร็จที่มุ่งหวัง </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">นั่นก็คือ อำนาจ และตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">เพราะสองสิ่งนี้เป็นเหมือนกูญแจที่จะเปิดเข้าไปสู่เส้นทางแห่งผลประโยชน์ </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">เพียงแต่สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ เป็นตัวกำหนดให้การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต้องอาศัยปัจจัยเกื้อหนุนจากต่างประเทศเข้ามาช่วยส่งเสริมอีกทางหนึ่ง ควบคู่ไปกับความเคลื่อนไหวกดดันจากภายในประเทศ จากทุกวิถีทางที่สามารถจะทำได้ เพื่อสั่นคลอนเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาล เพื่อสั่นคลอนเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ และเพื่อบ่อนทำลายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของประชาชนคนไทย เนื่องจากสถาบันกษัตริย์เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทยให้หลอมรวมเข้ามาเป็นหนึ่ง ในการปกป้องเอกราชของชาติไทย </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">เมื่อใดที่ชาติไทยปราศจากสถาบันกษัตริย์ แผ่นดินนี้ก็จะกลายเป็นแผ่นดินเดือด จากการรบราฆ่าฟันกันเอง ของบรรดานักการเมืองที่แย่งชิงอำนาจกันเองอย่างบ้าคลั่ง โวหารทั้งหลายที่หลุดออกมาจากปากของคนพวกนี้ มีค่าน้อยกว่าของน้ำลายของหมาบ้าเสียอีก เพราะอย่างน้อยน้ำลายของหมาบ้าก็ยังนำมาใช้ประโยชน์ในการทำวัคซีน แต่คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของนักการเมือง มีแต่คำพูดที่ปราศจากความจริงใจ เป็นคำพูดที่เลื่อนลอยเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างเท่านั้น </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ไม่มีคำพูดใดที่เชื่อถือได้....แม้แต่คำเดียว</div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-88679648409434041742020-12-15T17:48:00.003+07:002021-09-17T12:59:23.853+07:00ไม่ใช่เรื่องการเมือง<p></p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://1.bp.blogspot.com/-vzbjax0K2to/X9iO6yy-_vI/AAAAAAAASnc/Y5q_oYM_sFMSPnOY2NK0sU7hoSY5u-spwCLcBGAsYHQ/s2557/IMG_20200314_173047.jpg" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1229" data-original-width="2557" height="193" src="https://1.bp.blogspot.com/-vzbjax0K2to/X9iO6yy-_vI/AAAAAAAASnc/Y5q_oYM_sFMSPnOY2NK0sU7hoSY5u-spwCLcBGAsYHQ/w400-h193/IMG_20200314_173047.jpg" width="400" /></a></div><br /><div style="text-align: justify;"> จำไม่ได้ว่า เคยพูดถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากระบบบัญชีรายชื่อมาแล้วหรือยัง ถ้าเคยก็แล้วไป แต่ถ้าไม่เคยก็แล้วไปเหมือนกัน เพราะทุกอย่างที่เอ่ยถึง เกิดมาจากอารมณ์เพียงชั่ววูบ ที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองอะไรทั้งสิ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เนื่องจากก็ทำเหมือนกับที่คนหลายคนในบ้านเมืองทำกันอยู่ คิดอยู่เสมอว่า ส.ส.ที่มาจากระบบบัญชีรายชื่อนั้น จะว่าไปแล้วก็ไม่สมควรที่จะมีความภูมิใจอะไรเลย เนื่องจากรู้กันทั่วไปว่า หลายคนไม่ได้เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ตัวเอง หลายคนก็รู้ตัวดีว่าไม่สามารถลงไปแข่งขันกับใครได้ อาจจะเป็นเพราะว่ามีความสามารถ มากจนเกินพอดีก็เป็นได้ และหลายคนก็เป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ภายในพรรค ด้วยการเป็นผู้ก่อตั้ง ด้วยการเป็นนายทุนใหญ่ ด้วยอำนาจบารมีที่สะสมมาแต่ชาติปางก่อน </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">ที่สำคัญที่สุดก็คือ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งล่าสุดนี้ ได้รับผลบุญมาจากคะแนนเสียงจากผู้สมัครของพรรค ที่มีทั้งสอบได้หรือสอบตก ซึ่งบางพรรคสอบตกมากกว่าสอบได้ แต่ผลบุญที่ทำไว้ส่งผลให้ คนที่ไม่ต้องออกแรงทำอะไรทั้งนั้น ได้เชิดหน้าชูตาเข้าไปเป็น ส.ส.วางก้ามอยู่ในสภา ซึ่งหลายคนก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรทั้งนั้นในตอนแรก พอเป็น ส.ส.ขึ้นมาก็แสดงความฉลาดออกมาสารพัดเรื่อง ทั้งที่บางเรื่องก็แสดงความโง่ออกมาให้เห็นเสียมากกว่า </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">บอกตรงๆ ว่าเสียดายเงินงบประมาณแผ่นดินที่นำมาจ่ายเป็นเงินได้รายเดือนและเงินได้ส่วนอื่นๆ หลาย แสนบาทต่อเดือน ให้กับ ส.ส.เหล่านี้บางคน ที่พยายามสร้างความสำคัญให้กับตัวเอง ด้วยการเสนอหน้าออกมาแสดงบทบาท อวดความไร้สติปัญญา เสนอหน้าเข้าไปทำในเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของตน แต่หน้าที่ของตนกลับไม่ทำ พยายามใช้อำนาจของ ส.ส.ที่ตนมีอยู่ เบ่งอวดบารมี ข่มขู่ผู้คนที่ขวางทาง ราวกับนักเลงอันธพาล </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">มาถึงยุคที่คนรุ่นใหม่ถูกปั่นหัวจากคนรุ่นเก่าเก๋าเกม ให้ออกหน้ามาท้ารบกับรัฐบาล และเพิ่มเติมด้วยการประกาศปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยมี ส.ส.บางคนออกมาแก้ตัวแทนให้ อ้างว่าไม่ใช่การล้มล้างสถาบัน แต่ก็มีการประกาศปะปนออกมาในบางครั้งว่าชูระบอบสาธารณรัฐ และที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือ การป่าวประกาศว่า การกระทำของพวกตน ในการชุมนุมประท้วง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ให้กับประชาชนทั่วไป เป็นความต้องการของประชาชน ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า คำว่าประชาชน นี่มันรวมถึงตัวผมด้วยหรือเปล่า เพราะผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดหลุดโลก และการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยไม่กลัวเกรง โดยมี ส.ส.บางคนให้การสนับสนุนอีกด้วย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังแอบอ้างไปถึงคำว่าประชาธิปไตย ทั้งที่กลุ่มตนเอง ก็ไม่เคยยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และแสดงอาการไม่พอใจต่อกลุ่มคน ที่มีความคิดเห็นแตกต่างออกไปอย่างเปิดเผย </div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ? ถ้าจะเอาความคิดของตัวเองเป็นตัวตั้ง เพราะมองจากมุมมองคนนอกแล้ว นี่คือเผด็จการเต็มรูปแบบ ยิ่งเสียกว่าระบอบคอมมิวนิสต์เสียอีก</div><div style="text-align: justify;"><br /></div><div style="text-align: justify;">ยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องของการเมือง</div><div style="text-align: justify;">แต่เป็นเรื่องของอารมณ์</div><div style="text-align: justify;"><br /></div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-44383517530328615602020-09-24T20:15:00.001+07:002020-09-24T20:15:21.531+07:00ลมหายใจยังมีอยู่<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://1.bp.blogspot.com/-QDtTlMeodXc/X2yXOotBTqI/AAAAAAAARss/VMi9K3UORTg0vKB8CzY5Lt2A3RZHQMoFACLcBGAsYHQ/s2048/IMG_20200707_131948.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1536" data-original-width="2048" height="300" src="https://1.bp.blogspot.com/-QDtTlMeodXc/X2yXOotBTqI/AAAAAAAARss/VMi9K3UORTg0vKB8CzY5Lt2A3RZHQMoFACLcBGAsYHQ/w400-h300/IMG_20200707_131948.jpg" width="400" /></a></div><br /><p></p><p style="text-align: justify;">บ้านก็มีอยู่นะ แต่พอใจที่จะแอบมาสร้างกระท่อมหลังขนาดย่อมเอาไว้ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย เป็นการพักผ่อนทางใจและออกกำลังกสยไปพร้อมกัน เพราะอยากจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มากกว่าที่จะไปยืนอยู่ในแวดวงของผู้คน แล้วก็รับฟังเรื่องราวที่ไม่ได้อยากได้ยิน ไปรับรู้ในเรื่องที่ไม่อยากรับรู้ ซึ่งอันที่จริงก็ยังคงติดตามข่าวคราวความเป็นไปของบ้านเมืองอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นเคยเพียงแต่ขี้เกียจที่จะไปแสดงความคิดเห็นให้คนอื่นได้รับรู้ เนื่องจากหลายเรื่องในสังคม มีแต่จะสร้างปัญหาความขัดแย้งทางความคิดให้เกิดขึ้น แล้วก็สร้างปัญหาอื่นตามมาอีกมากมาย </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://1.bp.blogspot.com/-qxyKArjYeL8/X2yYooN_jcI/AAAAAAAARs8/kxN__uUStMMayN0vZa8shppYypWjOAHqwCLcBGAsYHQ/s2048/IMG_20200717_160249.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1536" data-original-width="2048" height="300" src="https://1.bp.blogspot.com/-qxyKArjYeL8/X2yYooN_jcI/AAAAAAAARs8/kxN__uUStMMayN0vZa8shppYypWjOAHqwCLcBGAsYHQ/w400-h300/IMG_20200717_160249.jpg" width="400" /></a></div><br /><p style="text-align: justify;">การใช้ชีวิตประจำวันไปตามลำพังคนเดียว ไม่ใช่ความเหงา เพราะมันเป็นความต้องการของตัวเราเอง ไม่ใช่เพราะไม่มีคนมาคบหาสมาคม แต่เป็นตัวเราเองที่ไม่อยากจะไปคบหาสมาคมกับผู้คนในสังคม ดังนั้น ชีวิตที่เราเลือกเส้นทางเดิน จึงเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของตัวเรา เพราะไม่ผิดกฎหมาย ไม่ไปล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น จึงเป็นสิ่งที่เราทำได้โดยไม่ต้องไปทนรับฟังความคิดเห็น หรือคำแนะนำของใครทั้งนั้น ก็มันเป็นชีวิตของเรานี่หว่า </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://1.bp.blogspot.com/-XGXBo8oGlI4/X2yZ8t5xx4I/AAAAAAAARtI/X2-p7fQgHUooJN6-kMRXNr88LJWRJlwXQCLcBGAsYHQ/s2048/IMG_20200802_162409.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1536" data-original-width="2048" height="300" src="https://1.bp.blogspot.com/-XGXBo8oGlI4/X2yZ8t5xx4I/AAAAAAAARtI/X2-p7fQgHUooJN6-kMRXNr88LJWRJlwXQCLcBGAsYHQ/w400-h300/IMG_20200802_162409.jpg" width="400" /></a></div><br /><p style="text-align: justify;">นอกจากงานดูแลต้นไม้ ปรับปรุงกระท่อม ปรับปรุงภูมิทัศน์ทั่วไปแล้ว ก็มีแต่สัตว์เลี้ยงพวกนี้แหละ ที่เป็นเพื่อนแก้เหงา (นอกจากเบียร์เย็น ๆ กับควันบุหรี่ และเสียงดนตรี) ทำให้ไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง และก็พยายามทำให้ตัวเองไม่ว่างเสียมากกว่า เนื่องจากวันเวลาที่่ผ่านไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยในสังคม ผู้คนทั่วไปมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น นักการเมืองยังคงแสวงหาผลประโยชน์เหมือนเดิม ข้าราชการก็ยังคงทำงานเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ มากกว่าที่จะทำงานเพื่อบ้านเมือง ชาวบ้านสุจริตก็ยังคงเกรงกลัวตำรวจมากกว่ากลัวโจร แม้ว่าโลกจะหมุนเวียนผ่านไปวันแล้ววันเล่า มนุษย์ก็ยิ่งตกต่ำลงไปทุกขณะ ทั้งจิตใจ และ จริยธรรม คุณธรรม หรือศีลธรรม ทุกคนให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์สำหรับชีวิต ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินมากกว่ามนุษยธรรม คนไทยไร้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปหมดสิ้น กำลังแปรเปลี่ยนไปเป็นมนุษย์ที่ไร้อารยธรรม ไร้ขนบธรรมเนียมประเพณี หรือวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ </p><p style="text-align: justify;">วิทยาการและเทคโนโลยี ทำให้ประชาชนเป็นเหมือนเครื่องจักรของสังคม ไร้วิญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นคน</p><p style="text-align: justify;"><br /></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-80446655530269222382020-09-14T13:51:00.000+07:002020-09-14T13:51:02.935+07:002563 ปีแห่งชะตากรรม<p style="text-align: center;"> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://1.bp.blogspot.com/-LH__N-Q57ik/X18N5GSaKUI/AAAAAAAARkA/bAPvBI3DIuMpEAS6iNG6qNly-Qq4aX1NQCLcBGAsYHQ/s1370/140920_1018.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="770" data-original-width="1370" height="351" src="https://1.bp.blogspot.com/-LH__N-Q57ik/X18N5GSaKUI/AAAAAAAARkA/bAPvBI3DIuMpEAS6iNG6qNly-Qq4aX1NQCLcBGAsYHQ/w625-h351/140920_1018.jpg" width="625" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">การเดินทางของชีวิตมนุษย์ และการเคลื่อนไหลของกระแสธารสังคม ยังคงดำเนินต่อไป แต่ว่าเป็นไปภายใต้ความหวาดหวั่นจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่กำลังคืบคลานเข้าใกล้มาทุกขณะ หลายประเทศตกอยู่ในความหวาดผวา กับความจริงจังของเชื้อไวรัส ที่ไม่หวั่นไหวยินดียินร้ายกับความปั่นป่วนของเศรษฐกิจ ไม่แยแสสนใจต่อความเคลื่อนไหวทางการเมือง และไม่นำพาต่อความขัดแย้งทางสังคมในทุกมิติ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงรุนแรง และลุกลามขยายตัว ครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่บนโลก สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ กับชีวิตของประชากร</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ก็จะเห็นได้ว่า ภัยธรรมชาติหลากหลายชนิดก็ผสมโรงเข้าจู่โจมในหลายประเทศ ทั้งอุทกภัย อัคคีภัย และวาตะภัย ทำให้หลายประเทศที่กำลังบอบช้ำจากพิษสงของเชื้อไวรัส ประสบกับภาวะซวนเซจากการซ้ำเติมของธรรมชาติ ที่ล้างผลาญชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์อย่างไร้ความปราณี ดังที่คำโบราณเคยกล่าวว่า ผีซ้ำด้ามพลอย เหมือนกับว่าธรรมชาติกำลังทดสอบความอดทนของมนุษย์ในยุคใหม่นี้ ให้มีโอกาสได้รับรู้ถึงพิษสงของธรรมชาติ ว่ามีอำนาจในการทำลายล้างชีวิตที่เหนือกว่าอาวุธที่มนุษย์สร้างขึ้นมา</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ต้องมาพบเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ของสังคมในช่วงเวลานี้ แม้จะไม่อยากจะให้ความสนใจรับรู้อะไรทั้งสิ้น </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ของชีวิตที่ผ่านมา ทำให้มองสถานการณ์รอบตัวได้ชัดเจน มากกว่าเด็กรุ่นหลังที่รับรู้มาจากการรับฟัง เฉพาะในสิ่งที่ตนเองต้องการฟัง และเชื่อในสิ่งที่ตนเองต้องการเชื่อเท่านั้น </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">หากมองจากมุมมองของคนภายนอก จะพบว่าสื่อสังคมออนไลน์ เป็นอันตรายอย่างมากต่อแนวความคิดของคนรุ่นใหม่ หากผู้เสพข้อมูลข่าวสาร ขาดวิจารณญาณในการไตร่ตรองถึงความเป็นจริง </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว จะพบว่านักการเมืองต่างหาก ที่เป็นอันตรายต่อสังคมมากที่สุด ทั้งแนวคิด ทั้งกลอุบาย ทั้งการใช้วาจา รวมไปถึงการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><b>ถึงวันนี้ ...</b></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><b>อดสงสัยไม่ได้ว่า มีนักการเมืองไว้ทำไม ?</b></div><br /><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-52750887321022087042020-08-18T21:58:00.003+07:002020-08-18T21:58:39.919+07:00COVID-19 ยังคงอยู่<p> </p><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://1.bp.blogspot.com/-BAqenlaBTW0/XzvpuxHTP6I/AAAAAAAARRE/qi3yve1MkXo1WNqJyysc8rN2XV-quOL0wCLcBGAsYHQ/s1366/180820_1044.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="768" data-original-width="1366" src="https://1.bp.blogspot.com/-BAqenlaBTW0/XzvpuxHTP6I/AAAAAAAARRE/qi3yve1MkXo1WNqJyysc8rN2XV-quOL0wCLcBGAsYHQ/s640/180820_1044.jpg" width="640" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ใช้เวลายาวนานพอสมควร กว่าที่จะย้อนกลับมาเขียนบันทึกเพิ่มเติม ซึ่งปรากฎว่า COVID-19 ก็ยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง และทะลุขึ้นไปถึง 22 ล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ขณะที่ทุกประเทศบนโลกก็กำลังหาหนทางในการกำจัดเชื้อไวรัสชนิดนี้อย่างจริงจัง ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะต้องมีการสูญเสียชีวิตของประชากรไปอีกมากน้อยเพียงใด </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">ส่วนบ้านเมืองเราในขณะที่รัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการต่อสู้กับการแพร่ระบาด ประชาชนส่วนหนึ่งก็กำลังจะถูกนำพาให้เดินทางเข้าไปสู่หายนะเพราะวิถีทางของการเมือง ที่เริ่มจะลุกลามเข้าไปลากดึงเอาเยาวชนให้ถอยหลังออกมาจากโรงเรียนเพื่อก้าวเดินลงไปชุมนุมเรียกร้องบนถนน ด้วยการปลุกปั่นยุยงอยู่บนสื่อสังคมออนไลน์อย่างบ้าคลั่งของนักการเมืองบางคน และข้อเรียกร้องที่แอบแฝงอยู่นั้นได้แก่ ความพยายามในการที่จะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ และยุยงให้กลุ่มเยาวชนและประชาชนบางส่วนต่อต้านการมีอยู่ของพระมหากษัตริย์ ด้วยวิธีการต่าง ๆ นาๆ และในขบวนการสนับสนุนนั้นปรากฎว่ามีนักการเมืองฝ่ายค้านเข้าไปร่วมด้วยอย่างเปิดเผย ทั้งที่สาเหตุหลักที่สำคัญก็มาจากนักการเมืองเหล่านี้ทั้งสิ้น </div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">บ้านเมืองก้าวเดินเข้าไปสู่วิกฤติในช่วงที่มีอายุมากขึ้นแล้ว ทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเป็นห่วงอะไรมากนัก เพราะคงไม่มีโอกาสได้อยู่รอเห็นบ้านเมืองพินาศย่อยยับเพราะนักการเมืองเหล่านี้ เป็นห่วงแต่กลุ่มเยา่วชนที่ถูกหลอกให้เข้ามาเป็นเชื้อไฟให้กับการชุมนุมเสียมากกว่า ว่าจะสามารถดำรงชีวิตและมีความเป็นอยู่อย่างไรต่อไป หากรอดพ้นมาได้จากสถานการณ์เลวร้ายครั้งนี้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">เชื่อว่าพระสยามเทวาธิราช คงจะไม่อยากให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปกว่านี้อีกแล้ว </div><p></p>chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-47697944915732862202020-05-10T12:40:00.001+07:002020-05-10T12:42:59.961+07:00ยังอยู่กับ COVID-19 <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://1.bp.blogspot.com/-izUSNhbkn50/XreLSpIpqrI/AAAAAAAAQac/LotJ4strIbAqWNRJ-C1ngKZk4I7TRGiZACLcBGAsYHQ/s1600/100520_1200.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="768" data-original-width="1366" height="355" src="https://1.bp.blogspot.com/-izUSNhbkn50/XreLSpIpqrI/AAAAAAAAQac/LotJ4strIbAqWNRJ-C1ngKZk4I7TRGiZACLcBGAsYHQ/s640/100520_1200.jpg" width="640" /></a></div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
วันนี้ 10 พฤษภาคม 2563 เวลา 12.00น.จากตารางสรุปของทั่วโลก ยอดของผู้ติดเชื้อ 4,101,775 คน และยอดของผู้เสียชีวิต 280,443 คน ส่วนยอดของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการศึกษาจนหายดีแล้วมีจำนวน 1,441,791 คน และก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่พบว่า บรรดาประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย จะมีจำนวนยอดของผู้ติดเชื้ออยู่ในลำดับต้นๆ ของตารางทั้งสิ้น และมีจำนวนยอดของผู้ติดเชื้อแต่ละวันเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับยอดของผู้เสียชีวิต แต่ในขณะเดียวกันจำนวนยอดของผู้ติดเชื้อที่รักษาจนหาย จากกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา กลับมีจำนวนมากกว่าประเทศมหาอำนาจ เมื่อเทียบกับจำนวนของผู้ติดเชื้อ</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงกระจายตัวออกไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งนั้นเกิดมาจากประชาชนบางส่วนเอง ที่ต้องการให้มีการยกเลิกมาตรการป้องกันต่างๆ ที่ทางรัฐบาลกำหนดขึ้นมา โดยอ้างถึงภาวะของเศรษฐกิจ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริงที่ว่า กิจการทั้งหลายที่ต้องการให้เปิดดำเนินการนั้น จะสร้างรายได้ให้กับท่านได้มากน้อยเพียงใด หากประชาชนพากันติดเชื้อและล้มตายลงราวกับใบไม้ร่วง เพราะละเลยมาตรการป้องกันต่างๆ อย่างไร้สติ เพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเท่านั้น โดยไม่เคยคำนึงถึงว่า ระบบเศรษฐกิจนั้นสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ความตายที่ได้รับมาจะเป็นผู้ยุติทุกอย่างลงภายในครั้งเดียว </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญของมาตรการป้องกันภาครัฐ ก็ได้แก่นักการเมืองไร้สมองบางกลุ่มบางคน ที่เพียรพยายามสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา เพียงเพื่อลดทอนความน่าเชื่อของรัฐบาล ปลุกปั่นยุยงให้ประชาชนคลางแคลงและต่อต้านมาตรการช่วยเหลือต่างๆ จากภาครัฐ เป็นการฉกฉวยโอกาสซ้ำเติม ในขณะที่ประชาชนกำลังประสบปัญหาอยู่รอบด้าน และเป็นการกระทำที่อยู่ในข่ายของการบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติโดยสมบูรณ์ </div>
<div style="text-align: justify;">
<b><br /></b></div>
<div style="text-align: justify;">
<b>แม้ในยามที่ประเทศชาติเกิดเหตุการณ์วิกฤติ คนเหล่านี้ก็ยังไม่ได้แยแสสนใจที่จะให้ความช่วยเหลือ แล้วถ้าเป็นยามปกติคนเหล่านี้จะยังมองเห็นหัวของประชาชนอยู่หรือ ?</b></div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
การที่รัฐบาลต้องระดมสมองของผู้มีความรู้ ความสามารถ ที่พากันทุ่มเทสติปัญญาและช่วงเวลาส่วนตัว เข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลเพื่อแก้ไขสถานการณ์ร้ายแรง ให้สามารถนำพาประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปได้ พยายามรักษาชีวิตของประชาชนไว้อย่างสุดกำลังความสามารถ โดยให้ความช่วยเหลือไปอย่างทั่วถึงมากที่สุดเท่าที่มีช่องทางจะทำได้ แม้จะไม่ทั่วถึงทั้งหมดทุกคน แต่ก็เป็นความพยายามอย่างที่สุดแล้ว </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
<b>ผิดกับกลุ่มคนที่จ้องแต่คัดค้าน เหน็บแนม จับผิด การกระทำของรัฐบาลในทุกเรื่อง โดยไม่เคยลงมือทำอะไรสักอย่าง หรือหากจะลงมือทำ ก็เป็นการทำเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางใดทางหนึ่งเท่านั้นเอง </b></div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
<span style="font-size: large;">ประเทศชาติอาจจะไม่อยากจะลงโทษคนเหล่านี้ </span></div>
<div style="text-align: justify;">
<span style="font-size: large;">แต่ธรรมชาติอาจจะไม่ยกโทษให้ก็เป็นได้ </span></div>
chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-90344576737072676522020-04-25T07:43:00.002+07:002020-04-25T07:43:54.074+07:00การพิพากษาจาก COVID 19 <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://1.bp.blogspot.com/-sUigflEBWlA/XqN_zABq24I/AAAAAAAAQTw/g4aQiNTFZC001UxtSDhrnYqqcOTX5rsPQCLcBGAsYHQ/s1600/250420_0706.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="768" data-original-width="1366" height="356" src="https://1.bp.blogspot.com/-sUigflEBWlA/XqN_zABq24I/AAAAAAAAQTw/g4aQiNTFZC001UxtSDhrnYqqcOTX5rsPQCLcBGAsYHQ/s640/250420_0706.jpg" width="640" /></a></div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
วันนี้ 25 เมษายน 2563 ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นไปถึง 2,826,655 คน (ถึงเวลา 07.06 น.) ขณะที่ยอดของผู้เสียชีวิตทั่วโลกรวม 196,971 คน และประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนของผู้ที่เสียชีวิตก็คือ สหรัฐอเมริกา เพราะจำนวนของผู้ติดเชื้อใกล้จะไปถึงหลักล้านแล้ว และคาดว่าจะต้องเกิน 1 ล้านคนก่อนสิ้นเดือนเมษายนนี้อย่างแน่นอน </div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
หากพิจารณาจากลำดับของประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต จะเห็นได้ว่าประเทศทางฝั่งยุโรปและอเมริกา ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ การสาธารณสุข แต่กลับไม่สามารถควบคุมจกัดขอบเขตความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ แม้จะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นหลังประเทศทางแถบเอเซีย แต่กลับแซงลำดับขึ้นหน้าไปได้ภายในเวลาไม่กี่วัน โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา สาเหตุอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ การดำเนินชีวิตไปในรูปแบบปกติของประชาชนโดยไม่ได้รับคำเตือนให้ตระหนักถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น กับอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ความเคยชินในวิถีชีวิตที่มีอิสระ จนดูเหมือนกับว่าจะทำให้ประชาชนขาดวินัย ขาดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ในการอยู่ร่วมกันในสังคม อันเป็นวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน </div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
แต่ในบ้านเรา แม้ว่าจะได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ เกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการควบคุมจำกัดขอบเขตของการแพร่ระบาด การกำหนดมาตรการในการกักตัวผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย รวมไปถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจควบคู่กันไป เป็นการบูรณาการงานทุกอย่างไปพร้อมๆ กันเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติและประชาชน หากแต่ยังมันักการเมืองอีกหลายคนที่ยังคงก้มหน้าวนเวียนอยู่กับความหลงโดยไม่ลืมหูลืมตา พยายามอาศัยสื่อของตนเสนอหน้าออกมาให้คำแนะนำแก่รัฐบาล ทั้งๆ ที่ทุกอย่างนั้น รัฐบาลก็กำลังกระทำอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง เป็นการโผล่เข้ามาเพื่อหวังผลทางการเมืองโดยตรง ขณะที่อีกหลายคนก็ยังโผล่หน้าออกมาด่าทอโจมตีรัฐบาลในทุกเรื่อง เช่นเดียวกับการปล่อยข่าวปลอมออกมาทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลตลอดเวลา</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
การที่ยังมีนักการเมืองบางคน ออกมาเชิดชูยกย่องอดีตนักการเมืองที่หลบหนีคดีว่า มีความรู้ความสามารถในการแก้ไขวิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้ดีกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงสันดานที่แท้จริงของนักการเมืองที่ประพฤติตัวเป็นขี้ข้าหรือสุนัขรับใช้ของผู้นำ ที่เชิดชูยกย่องคนที่สามารถให้ผลประโยชน์แก่ตนได้โดยไม่สนใจใยดีว่า ที่ผ่านมานั้นประเทศชาติได้รับความเสียหายไปแล้วมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้แน่ชัดว่า บุคคลผู้นี้ มี่ความซื่อสัตย์จงรักภักดีและเป็นข้ารับใช้ของผู้มีอำนาจและทรัพย์สิน มากกว่าที่จะเสนอตัวเข้ามาเป็นนักการเมืองเพื่อรับใช้ประเทศชาติและประชาชน</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
สถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้ จะขุดสันดานที่แท้จริงของผู้คนจำนวนมาก ให้ปรากฏออกมาเพื่อที่สาธารณชนจะได้เห็นประจักษ์ ถึงความซื่อสัตย์และจริงใจต่อประเทศชาติ ว่ายังมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีอยู่หรือไม่ ? </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
นักการเมืองหลายคน ยังไม่เคยได้สำนึกในเงาของตัวเองแม้แต่น้อย ว่าตำแหน่งทางการเมืองที่เคยได้รับมาในอดีตนั้น เป็นเพียงรางวัลตอบแทนความซื่อสัตย์ซึ่งเปรียบเสมือนเศษกระดูกชิ้นหนึ่งเท่านั้น เพราะ ตำแหน่งทางการเมืองของท่านเหล่านั้น ไม่ได้เกิดจากความต้องการของประชาชนแม้แต่น้อย และขอยืนยันว่า บางท่านก็ไม่สมควรจะได้รับโอกาสเช่นนั้น เมื่อพิจารณาจากความรู้ความสามารถในการทำงาน ไม่ได้พิจารณาจากความคล่องแคล่วในการประจบสอพลอเลียแข้งเลียขาเจ้านาย ซึ่งคงต้องยอมรับความจริงที่ว่าคนเหล่านี้เหมาะสมที่จะเป็นฝ่ายค้านมากกว่า เพราะเหตุผลที่ว่าทำงานเองไม่เป็น แต่สามารถสรรหาเรื่องมาตำหนิก่นด่าคนทำงานได้ไม่เว้นแต่ละวัน </div>
chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-72562574604961528232020-04-22T09:16:00.001+07:002020-04-22T21:55:25.438+07:00บทเรียนจาก COVID-19 <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://1.bp.blogspot.com/-gN4mSkpl5Xc/Xp-e025WGaI/AAAAAAAAQS8/KLHJ9wcEBz8utif3k75lkeWKiiQgOrY7gCLcBGAsYHQ/s1600/220420_0629.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="768" data-original-width="1366" height="223" src="https://1.bp.blogspot.com/-gN4mSkpl5Xc/Xp-e025WGaI/AAAAAAAAQS8/KLHJ9wcEBz8utif3k75lkeWKiiQgOrY7gCLcBGAsYHQ/s400/220420_0629.jpg" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาพบกับอากาศร้อนเหมือนกับที่เคยเป็นมาหลายวันติดต่อกัน แม้ว่าจะพยายามหลีกหนีให้ห่างออกมาจากความวุ่นวายสับสนของสังคมเมือง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะละทิ้งการรับรู้ข่าวสารความเป็นไปของบ้านเมืองหรือสังคมโลก ตลอดจนวิวัฒนาการทางพฤติกรรมของผู้คนที่มีความเปลี่ยนแปลงไปทุกนาที เพียงแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพราะพบว่าผู้คนในทุกวันนี้มีแต่จะตกต่ำลงไปในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านจิตใจที่ไม่เคยคำนึงถึง คุณธรรม จริยธรรม หรือศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ ซึ่งสวนทางกับความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีอย่างสิ้นเชิง</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
มนุษย์ในสังคมสะสมความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ มองเห็นแต่ภาพของการแสวงหาเพื่อสนองความต้องการของตนเอง มากกว่าการกระทำที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม คนรุ่นใหม่พากันเรียกร้องหา สิทธิ เสรีภาพ และอิสรภาพในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคม ไม่ต้องการถูกกฎเกณฑ์ของสังคมมาบีบบังคับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกฎเกณฑ์ขั้นพื้นฐานตามธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนต้องการอย่างเท่าเทียมกัน แต่ในบางโอกาสกฎเกณฑ์ของสังคมที่ถูกบัญญัติขึ้นมาเพื่อความสงบสุขของสังคมโดยรวม ก็สมควรที่จะต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของสังคม</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
วิกฤติการณ์จาก COVID 19 ตั้งแต่ปลายปี 2019 ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงธรรมชาติของมนุษย์ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นสังคมขนาดใหญ่ ว่าคนบางส่วนก็ไม่ยอมรับในกฎเกณฑ์ที่ถูกวางเอาไว้เพราะต้องการใช้ สิทธิ เสรีภาพ ในการดำเนินชีวิตอย่างมีอิสระของตนเอง ไม่ต้องการให้กฎหมายมาบีบบังคับให้ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ แต่กลับไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะเกิดตามมาหลังจากนั้น แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เลวร้ายเกิดขึ้นมาในบ้านเมือง </div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 ในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาเกิดขึ้นมาในช่วงต้นปี 2520 แล้วลุกลามขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยปราศจากมาตรการป้องกัน เพราะความเชื่อมั่นในศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของประเทศตน เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้จำนวนของผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วอย่างน่าตกใจ แม้ว่ารัฐบาลของประเทศเหล่านี้จะพยายามกำหนดมาตรการต่างๆ ขึ้นมาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเท่าที่ควร เพราะทุกคนมองเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป ทุกคนหวงแหนในสิทธิ เสรีภาพ ของตัวเอง มากกว่าที่จะคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของตนเองและครอบครัว หรืออนาคตของบ้านเมือง</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นมา เฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ (ตามความคิดของคนบางกลุ่ม) แต่ยังมีคนบางกลุ่มที่คลั่งไคล้ในเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ แบบไม่ลืมหูลืมตาซึ่งแสดงออกมาโดยไม่รู้จักกาละเทศะในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นการดาหน้ากันออกมาก่นด่ารัฐบาล ในนโยบายทุกเรื่องที่รัฐบาลกระทำ หรือไม่ได้กระทำ ของนักการเมืองฝ่ายค้าน รวมไปถึงการออกมาเรียกร้องหาเสรีภาพ ของนักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรงทั้งหลาย บ่งบอกถึงความไม่สมประกอบของกระบวนการทางความคิดในตัวของคนเหล่านี้ ซึ่งสนุกสนานกับการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เรียกร้อง ในสิ่งที่ไม่ได้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมเลยแม้แต่น้อย หลายคนออกมาพูดโดยไม่ได้หันไปมองประเทศต้นกำเนิดประชาธิปไตย ที่กำลังระส่ำระสายล้มตายลงไปราวกับใบไม้ร่วง ว่าอะไรคือสาเหตุของภัยพิบัติ และรัฐบาลของทุกประเทศกำลังทำอะไร เพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้ </div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
สังคมที่อาศัยปากเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา ไม่เคยนำพาประเทศชาติให้ปลอดภัย</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
เช่นเดียวกับการร่ำร้องเรียกหา สิทธิ เสรีภาพ และอิสรภาพ อย่างพร่ำเพรื่อ ก็ไม่ได้ช่วยให้ประเทศชาติรอดพ้นไปจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ด้วยเช่นกัน</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
ขอเพียงมีสติ ใช้เหตุและผล ในการพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ให้รอบด้าน ปล่อยวางเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน </div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
มองประเทศชาติไว้เป็นหลัก</div>
<br />chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-55061689158260836912020-03-07T21:22:00.000+07:002020-03-07T21:22:24.990+07:00โลกใบเก่า<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://1.bp.blogspot.com/-QXeJmWY7rps/XmOoigRU2uI/AAAAAAAAQBs/HHzWstap0c4pHWvcMKfSOgG2EgMKtkt1QCLcBGAsYHQ/s1600/3dflags_tha0001-0003a.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="99" data-original-width="132" height="300" src="https://1.bp.blogspot.com/-QXeJmWY7rps/XmOoigRU2uI/AAAAAAAAQBs/HHzWstap0c4pHWvcMKfSOgG2EgMKtkt1QCLcBGAsYHQ/s400/3dflags_tha0001-0003a.gif" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
วันเวลาผ่านไป แต่การเมืองไทยก็ยังคงไว้ตามรูปแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ซ้ำซากจำเจและน่าเบื่อหน่ายอยู่เช่นเดิม วังวนของการแก่งแย่งชิงดีกัน ไขว่ควาหาแสวงหาอำนาจในการบริหารปกครองประเทศ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายหลักในการอาสาเข้ามารับใช้ประเทศชาติและประชาชน ที่ผิดไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนที่มุ่งหน้าเข้ามาสู่ถนนการเมืองดูเหมือนจะอาศัยประชาชนเป็นเพียงเครื่องมือ เหมือนกับที่เคยทำมานับร้อยปี ในขณะเดียวกันก็อาศัยคำว่า ประชาธิปไตย เป็นใบเบิกทางในการแสวงหาอำนาจเหนือผู้อื่นเท่านั้นเอง เพราะไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด ผู้แทนราษฎรก็ยังคงทำตัวเหนือมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คำว่า "ความเสมอภาค" ก็ยังคงเป็นเพียงตัวอักษรที่ถูกบันทึกไว้ในรัฐธรรมนูญ และเป็นแค่เพียงคำพูดที่ใช้ในการปลอบประโลมผู้ฟังให้มีความหวังตลอดไป โดยไม่มีที่สิ้นสุด</div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
หากจะมองไปที่ตัวตนของนักการเมืองยุคใหม่ เลือดใหม่ ก็จะเห็นว่ามีฐานความคิดแน่วแน่อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ให้ก้าวไปสู่ระบบทุนนิยมเต็มรูปแบบ โดยอ้างถึงคำว่า "เศรษฐกิจ" นำหน้าคำอื่นๆ ที่ตามมาแบบลอยๆ เช่น "สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค" "ประชาธิปไตย" โดยไม่เคยคำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชนส่วนมากในแผ่นดิน ที่มองเห็น"ความอิ่ม" และ "ความสุข" สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เพราะประชาชนส่วนมากไม่เคยซื้อหุ้น ประชาชนส่วนมากไม่สนใจกับดัชนีชี้วัดสารพัดเรื่อง ที่เหล่านักวิชาการและนักการเมืองพยายามยัดเยียดเข้ามาใส่สมอง ทุกคนต้องการเพียงอาหารสำหรับตนเองและครอบครัวมากกว่าสิ่งอื่นใด </div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
การศึกษาจากสถาบันอาจจะสร้างคนให้มีความรู้ความสามารถ แต่ก็ไม่ควรลืมว่า การศึกษาจากชีวิตจริงสามารถสร้างความสมบูรณ์ให้กับชีวิตมายาวนานหลายร้อยปีมาแล้ว และบรรพบุรุษของเราสามารถรักษาเอกราชของชาติไทยเอาไว้ได้อย่างยั่งยืนมา ท่ามกลางกระแสการลาเมืองขึ้นของชาติตะวันตก ด้วยความเป็นไทยของเราเอง เอกลักษณ์ของไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลก โดยไม่เคยลอกเลียนแบบมาจากต่างประเทศ เพียงแต่ผุ้นำประเทศรู้จักการนำเทคโนโลยีและวิทยาการด้านต่างๆ มาปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมประเพณีของไทย ไม่ใช่ด้วยการหลับหูหลับตาลอกเลียนมาอย่างงมงาย แล้วอ้างว่าเป็นอารยธรรมสุดประเสริฐ ทัดเทียมกับนานาประเทศ </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
คนไทย ที่มองไม่เห็นคุณค่าของบรรพบุรุษ ดูหมิ่นเหยียดหยามวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและเอกลักษณ์ของไทย ไม่นับว่าเป็นคนไทย แต่เป็นได้แค่เพียงชีวิตหนึ่งที่มาอาศัยแผ่นดินไทยเพื่อเกิดขึ้นมามีลมหายใจเท่านั้น </div>
chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-18199945270600492142020-01-15T14:39:00.000+07:002020-01-15T14:39:15.950+07:00สวัสดีปีใหม่ 2563<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://1.bp.blogspot.com/-e28Aw-DO7Bs/Xh639H89doI/AAAAAAAAPn0/7VkURJg7ooQoIJvVbhv6WEhQ6ct_39XfgCKgBGAsYHg/s1600/IMG_20191229_092748.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="770" data-original-width="1600" height="191" src="https://1.bp.blogspot.com/-e28Aw-DO7Bs/Xh639H89doI/AAAAAAAAPn0/7VkURJg7ooQoIJvVbhv6WEhQ6ct_39XfgCKgBGAsYHg/s400/IMG_20191229_092748.jpg" width="400" /></a></div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
การลาออกจากราชการก่อนถึงกำหนดวันเกษียณอายุราชการ 9 ปี ให้ความรู้สึกที่ดีเกินความคาดหมาย เมื่อมาถึงวันที่รุ่นน้องเริ่มเกษียณอายุตามหลังมาทีละรุ่นๆ ขณะที่ตัวเราเองผ่านการใช้ชีวิตอยู่บนสิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคในฐานะของประชาชนคนธรรมดาแบบไทยๆ มานานกว่า 12 ปีเข้าไปแล้ว ชีวิตแบบอิสระ ปราศจากการรับคำสั่ง ไม่มีการออกคำสั่ง ไม่มีระเบียบการทุี่วุ่นวายสับสน สามารถทำเรื่องต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ ทุกเวลาที่ต้องการ ซึ่งแน่นอนว่ายังคงยึดตามหลักการเดิมทุกประการ ในอันที่จะไม่ผิดกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนหรือมีผลกระทบต่อชีวิตของผู้อื่น ส่วนการที่ผู้อื่นจะมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ติฉินนินทา้กี่ยวกับตัวเรา ก็ย่อมเป็นสิทธิของเขาที่สามารถจะกระทำได้ ตราบใดที่ไม่มาทำต่อหน้าหรือสร้างปัญหาให้มากเกินกว่าที่จะรับได้ และเรื่องเหล่านี้ก็ย่อมเป็นธรรมชาติของมนุษย์ในยุคสมัยนี้</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
"...ทุกเรื่องที่ก่อให้เกิดผลเสียกับฝ่ายของตน ย่อมไม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมทั้งสิ้น และทุกเรื่องที่ฝ่ายของตนกระทำจะต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องชอบธรรมไปหมดเสียทุกเรื่อง..." สิ่งนี้ไม่ใช่ของแปลก เพราะมันคือหลักคิดของนักการเมืองไทย ซึ่งมีมาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว เหมือนกับการเป็นฝ่ายค้านในสภาก็จำเป็นที่จะต้องค้านมันเสียทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะก่อให้เกิดผลเสียหรือผลดีต่อประชาชนส่วนรวม เพราะมันเป็นหลักคิดขั้นพื้นฐานของฝ่ายค้าน คงจะเป็นเรื่องแปลกถ้าหากว่าจะมีกฎหมายฉบับใดก็ตาม สามารถผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา โดยเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีธุรกิจประเภทหนึ่งประเภทใดเข้ามาแอบแฝงผลักดันอยู่เบื้องหลัง</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
แต่ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ในที่สุดประชาชนก็จะต้องก้าวเข้ามา ไม่ใช่ในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามคำนิยม แต่เข้ามาในฐานะเครื่องมือทางการเมืองของนักธุรกิจการเมืองที่ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจที่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ จากเวทีทางการเมือง และเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศที่ประกาศตัวเป็นประชาธิปไตย ซึ่งอ้างถึงสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชน ในการดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมซึ่งมีการแข่งขันอยู่ทุกลมหายใจ </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
ผลสรุปที่ได้ก็คือ อัตราการสูญสลายของประชาชนในระดับล่างสุด จะมีค่าเท่ากับ 95 เท่าของประชาชนที่อยู่ในระดับบนสุดในสังคมซึ่งมีการขยายตัวของอัตรารายได้อย่างต่อเนื่อง เท่ากับว่าคนจน 95 คนจะตายลงด้วยความอดอยากหิวโหย เพื่อที่สังคมจะได้มีคนรวยเพิ่มขึ้นมาอีก 5 คน เป็นการเติบโตของระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ เนื่องจากสังคมในยุคนี้หายใจด้วยระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง คนในระดับล่างที่ไร้การศึกษาย่อมไม่สามารถเข้าถึงระบบนี้ได้อย่างแน่นอน </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
นอกจากวางตัวเองเอาไว้ในฐานะเบี้ยล่างของสังคม และยอมรับสภาพในความเป็นเครื่องมือทางการเมืองต่อไปอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว เพราะอย่างน้อยฝูงสัตว์ที่พวกตนอุตส่าห์เพาะเลี้ยงให้เติบโตมีเนื้อหนังอุดมสมบูรณ์เหล่านั้น แม้จะไม่ได้กินเนื้อ ก็ยังจะพอมีเศษหนัง เศษขน เอาไว้สร้างรายได้ และยังจะพอมีกระดูกเหลือไว้ให้แทะกินได้บ้างเพื่อยังชีพต่อไปด้วยความอดทน ตามนโยบายของทุกรัฐบาล</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
ครับ ก็จะอดทนต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่หยุดหายใจ และหวังว่าสัปเหร่อจะไม่นำศพมาแอบเผาอยู่ในกองไม้ที่ป่าช้าหลังเมรุ เนื่องจากบนเมรุจะต้องมีพิธีเผาศพผู้ยิ่งใหญ่หรือมหาเศรษฐีอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เพื่อบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้กับวัด และก็ยังแอบหวังไว้ลึกๆ ว่า สายลมคงจะไม่พัดเอาเศษเถ้าธุลีของเราไปปะปนกันจนทำให้ยมบาลต้องเสียเวลาไปพิสูจน์ดีเอ็นเอในนรก </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
เพราะความดี ความชั่ว ไม่สามารถแยกแยะได้อีกแล้วในสายตาหรือความรู้สึกของประชาชนในสังคม </div>
chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-36778357.post-68224601645685151282019-06-01T11:26:00.001+07:002019-11-29T22:29:36.675+07:00ตำราล้างโลก<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://1.bp.blogspot.com/-fh9a9oWUKhk/XPH3UzZVKvI/AAAAAAAAOkQ/81s9Hxn3cikaXoyGG_wduU2oxumZ1wkIACLcBGAs/s1600/man6.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="450" data-original-width="950" height="188" src="https://1.bp.blogspot.com/-fh9a9oWUKhk/XPH3UzZVKvI/AAAAAAAAOkQ/81s9Hxn3cikaXoyGG_wduU2oxumZ1wkIACLcBGAs/s400/man6.jpg" width="400" /></a></div>
<br />
<div style="text-align: justify;">
ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพ้อฝัน หากว่าจะมีใครบางคนอาศัยโลกสังคมออนไลน์เป็นแหล่งข้อมูล ในการศึกษาหาความรู้และสั่งสมประสบการณ์ให้กับชีวิต ด้วยตัวเอง แต่เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริงทุกวันนี้ เมื่อผู้ปกครองส่วนมากหยิบยื่นโทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารชนิดอื่นๆ ให้กับลูกของตน ความประสงค์หลักก็เพื่อให้ลูกของตน ใช้วิทยาการใหม่ๆ เหล่านี้ ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากตำราเรียนในสถานศึกษา ให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ หรืออาจจะไว้ใช้เพื่อติดต่อสื่อสารให้ความมั่นใจกับลูก ว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่ ให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด หรือบางคนก็เพียงแต่ต้องการให้คนอื่นได้เห็นว่า ตนก็มีความสามารถในการ "ให้" ของบางอย่างแก่ลูก ทัดเทียมกับที่ลูกคนอื่นมี แต่ไม่เคยมีผู้ปกครองคนใดฉุกใจคิดบ้างเลยว่า ตนเองที่เป็นผู้ยื่น "อาวุธ" ให้กับลูกของตนโดยเจตนา </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
ความมุ่งหมายของวิทยาการทั้งมวล ก็เพื่อต้องการให้ประชาชน "ติดอาวุธทางปัญญา" ดังนั้น ตามความหมายดังกล่าว ความรู้ทั้งปวงจึงถูกดัดแปลงแต่งเติม มีวิวัฒนาการเพิ่มเติมให้กลับกลายเป็นอาวุธอย่างสมบูรณ์ในที่สุด</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
เพียงแต่กลายเป็นอาวุธสำหรับนายทุน หรือผู้ที่ฉวยโอกาสใช้ความรู้ความสามารถอื่น ผนวกรวมเข้ามาเสริมเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่แอบแฝงอยู่ โดยการใช้ประโยชน์จากสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดเป็น "ตำราเรียนนอกระบบ" แทนที่จะเป็นการเผยแพร่ความรู้ วิทยาการต่างๆ ออกไปสู่สาธารณชน ก็แปรเปลี่ยนเป็น การสร้างข้อมูลข่าวสารขึ้นมาใหม่ แล้วแพร่กระจายออกไปให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของสังคมออนไลน์ </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
เริ่มต้นจากการสร้างข้อมูลขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายบางประการ จากนั้นก็ส่งต่อข้อมูลเข้าไปในระบบสังคมออนไลน์ ขั้นตอนต่อไปต้องอาศัยกองกำลังที่จัดตั้งขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยกระจายส่งข้อมูลนี้ให้ทั่วถึงในสังคมออนไลน์ทุกแขนงที่เป็นระบบเปิด ส่งซ้ำๆ ออกไปอย่างต่อเนื่อง ให้ครอบคลุมได้กว้างไกล และมีความถี่เพิ่มมากขึ้น </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
สังคมออนไลน์มากกว่าครึ่งเป็นเยาวชนที่ขาดวุฒิภาวะ เมื่อได้เสพข่าวสารนี้เข้าไปบ่อยครั้ง ก็จะพากันปล่อยตัวปล่อยใจเลื่อนไหลไปตามกระแส เข้ามาช่วยผลักดันกระแสข้อมูลที่ถูกส่งมาให้แผ่ขยายกว้างออกไปมากยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้ นอกสังคมออนไลน์ก็จะเริ่มมีความเคลื่อนไหวของขบวนการบางอย่าง เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ โดยประสานสอดคล้องไปกับข้อมูลที่ถูกปล่อยออกมาทางสังคมออนไลน์ ความสัมพันธ์ของเส้นทางทั้งสองสาย ไม่ใช่จินตนาการ แต่กำลังเกิดขึ้นมาจริงในโลกของเรา</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
ดูเหมือนจะหมดหนทางที่จะแก้ไขเสียแล้ว นอกจากช่วยกันตักเตือนบุตรหลาน ขอให้เสพข้อมูลอย่างมีสติ ไตร่ตรองในทุกข้อมูลอย่างมีเหตุผล และพิจารณาดูกระแสธารที่กำลังไหลหลั่งอยู่นั้น ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือคำหลอกลวง</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
มิฉะนั้นแล้ว วิทยาการความรู้ที่ได้รับมาก็ไม่ต่างอะไรกับ "อาวุธ" ที่ทุกคนถือไว้ในมือเพื่อประหัตประหารกัน ตามคำบงการของซาตาน ... <b>ที่อยู่ในใจของเราเอง</b></div>
<br />chanin1222http://www.blogger.com/profile/00249325908672343913noreply@blogger.com